มีคำถามมาเยอะว่า หากไปเที่ยวงาน World Expo 2010 ที่เซี่ยงไฮ้ บูธใดจาก 200 กว่าบูธที่ห้ามพลาดเด็ดขาด! ผมจะเฉลยให้ครับ เชิญติดตาม
(มี 2 ตอนนะครับ)
งาน Shanghai Expo 2010 ได้เริ่มอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และจะไปสิ้นสุดในเดือนตุลาคม ศกนี้ ใครวางแผนจะไปเที่ยว แนะนำให้เตรียมตัวแต่เนิ่นๆ
บูธประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่เวียดนาม สิงคโปร์ (ดูคล้ายจานบิน) และฟิลิปปินส์ สีสันสดใส
บูธจากชมพูทวีป ประเทศเนปาล และประเทศอินเดีย
อ้าว.. เนื้อที่หมดซะแล้ว ยังไม่ได้แนะนำเลยว่าบูธใดไม่ควรพลาด เชิญติดตามในบทความตอนที่ ...

ปกติการเข้าออกของพนักงานในแต่ละองค์กรเป็นเรื่องปกติ เช่นเดียวกันกับบริษัทฯ ผม มีพนักงานเข้าออกเป็นประจำ แต่ที่ไม่ปกติ คือ การลาออกครั้งหนึ่งของผู้จัดการแผนกหนึ่งเมื่อสิบปีที่แล้ว มีการใช้ภาษาพ่อขุนรามคำแหง แถมยังมีคำหยาบคายออกมาจากสวนสัตว์ดุสิตเต็มจดหมายไปหมด
สาเหตุคือ ผู้จัดการที่ยื่นจดหมายลาออก (ซึ่งพยายามอนุรักษ์ภาษาไทยโบราณ) ไปทะเลาะกับผู้จัดการอีกคน ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นนิสัย เขาจึงเขียนจดหมายด้วยถ้อยคำหยาบคาย รุนแรง ไม่แสดงถึงความเคารพและความเกรงใจใดๆ ต่อองค์กร ต่อผู้บังคับบัญชา (คือผม) ยอมรับว่า เมื่อได้อ่านจดหมายแล้วรู้สึกแย่มากๆ
ตอนนั้น เริ่มฝึกสมาธิบ้างแล้ว จึงหลับตานิ่งๆ ดูลมหายใจเข้าออกสักระยะ ปล่อยวางความคิด แล้วก็เกิดปัญญาบางอย่างว่าเราควรปฏิบัติต่อเขาอย่างไร จึงเรียกเขามาคุยในห้องทำงาน
เขาเดินเข้ามาทำตาขวางๆ กำมือหลวมๆ แบบเตรียมพร้อมว่า หากได้ยินอะไรไม่เข้าหูก็จะลุยทันที ...
เหตุการณ์ในวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้คนไทยและชาวต่างประเทศทั่วโลกตกอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าช็อค เพราะไม่เชื่อว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเป็นความจริง ผมนั่งดูข่าวอยู่ที่บ้านรามอินทราด้วยน้ำตาคลอเบ้า เพราะหลายสถานที่ที่ถูกเผามีความผูกพันอยู่ใกล้ตัว ทั้งบ้านและที่ทำงานอยู่ที่ราชประสงค์ และตนเองก็ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการชุมนุมมาตลอด 6 สัปดาห์โดยไม่ได้ย้ายออกไปไหน โชคดีที่บังเอิญมีธุระต้องเดินทางไปบรรยายในต่างจังหวัดหลายแห่งเพื่อปลุกระดมพลังความดี ทำให้ไม่ต้องอยู่ในบริเวณราชประสงค์ช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์ร้ายแรง
หลายคนที่ประสบกับเหตุการณ์ด้วยตนเอง เพราะธุรกิจ ร้านค้า หรือข้าวของถูกเผา รวมถึงคนไทยส่วนใหญ่จะมีความรู้สึกท้อแท้ ห่อเหี่ยว สลดใจ ผมอยากให้กำลังใจว่า อะไรที่ถูกเผาก็เป็นเรื่องนอกตัว ไม่ว่าจะเป็นอาคาร บ้านเรือน ร้านค้า ธนาคาร ศาลากลาง เราสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ให้ดีกว่าเดิมได้ เพราะสิ่งทีไม่ได้ถูกเผาไปด้วย คือ ...
นานๆ ผมถึงจะมีโอกาสได้กลับมานอนที่บ้านรามอินทราซึ่งแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น ชุกชุมไปด้วยนกนานาชนิด กระรอกน้อยและจิ้งหรีดที่ส่งเสียงดัง แถมมีคลองและบึงน้ำอยู่ติดริมหน้าต่างห้องนอน ไม่มีเสียงรบกวนใดๆ นอกจากเสียงนกร้อง เสียงหริ่งหรีดเรไรยามค่ำคืน ต่างจากบรรยากาศย่านราชประสงค์ที่ปกติเป็นทั้งที่ทำงานและที่พักอาศัยตลอดเวลากว่าสิบปี แต่ปัจจุบันได้กลายสภาพเป็นที่ชุมนุมประท้วง มีการขยายเสียงดังสนั่นทั้งกลางวันกลางคืนมาร่วมเดือน และไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงได้อย่างสันติ ทำให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการเด็ดขาดในการตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ เป็นเหตุผลสมควรที่ทำให้ผมกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบในย่านชานเมืองอีกครั้ง
ความจริงต้องขอขอบคุณการชุมนุมที่เกิดขึ้น ทำให้ผมได้มีโอกาสตรวจสอบความหนักแน่น ความเป็นกลางของหัวใจว่าจะสามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขได้อย่างไร ท่ามกลางความวุ่นวาย ความแออัด ทั้งในด้านความเป็นอยู่และความคิดที่กระตุ้นความเกลียดชัง ความแตกแยกในสังคม เป็นที่สังเกตได้ชัดเจนว่า ตราบใดที่เรายังไม่สามารถทำให้คนไทยพึ่งพาตนเอง รู้ซึ้งถึงความหมายในการเป็นที่พึ่งแห่งตนตามคำสอนของพระพุทธองค์ อัตตาหิ อัตโนนาโถ ปรากฏการณ์การประท้วง ...

