มาแล้วครับ วีดีโอการบรรยายภายใน 5 นาที ครั้งแรกในชีวิต ปกติบรรยาย 3 ชั่วโมงก็ไม่เคยจบ กว่าจะอารัมภบทก็ 10 กว่านาทีแล้ว!
เป็นการบรรยายในงาน #Ignite Thailand ‘ปลุกพลังบวก เปลี่ยนประเทศไทย’ โดยมี Igniter หรือผู้จุดประกายทั้งหมด 20 คน มาแบ่งปันประสบการณ์ ที่ลุมพินีสถาน สวนลุม เมื่อคืนวันพุธที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ความจริง วันนั้น ผมต้องอยู่ที่ขอนแก่น เพื่อเตรียมบรรยาย White Ocean Strategy ให้กับอาจารย์มหาวิทยาลัย 42 สถาบันที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น แต่ได้เลื่อนการเดินทางเป็นตีสี่ของเช้าวันพฤหัสวันรุ่งขึ้น เพื่อมางานนี้ ต้องบอกว่า หากไม่ได้มาฟังคนอื่นๆ พูด เสียดายแย่เลย! ชมแล้วเชิญคอมเมนท์ได้นะครับ…

ความดี ยิ่งพูด ยิ่งทำ.. ยิ่งมีพลัง
ความดี.. ดีที่ได้ทำ.. เป็นพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้พวกเราลงมือทำความดี ไม่เพียงแค่คิด หรือพูดเท่านั้น…
อนุโมทนาครับคุณดนัย
“ความดี ยิ่งพูด ยิ่งทำ.. ยิ่งมีพลัง
ความดี.. ดีที่ได้ทำ.. เป็นพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้พวกเราลงมือทำความดี ไม่เพียงแค่คิด หรือพูดเท่านั้น”
คิดก็ยากแล้ว จะพูดออกมาก็ยิ่งยาก เลยไปถึงทำยิ่งยากไปใหญ่ในสายตาของหลายๆ คน
แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะทำ 😀
ขอบคุณอาจารย์ป่านครับ ที่เป็นเครือข่ายความดี.. อยากให้มีคนแบบอาจารย์ป่านมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคม ทำงานโดยไม่เหน็ดเหนื่อย ทุ่มเทเพื่อสร้างเยาวชนของเรา สู้ สู้ นะครับ เป็นกำลังใจให้เสมอ..
ความดี.. ดีที่ได้ทำ .. ชอบที่สุดเลยครับ!! พระเจ้าอยู่หัวของพวกเราทุกคน คือ สุดยอดของปราชญ์ และต้นแบบของคนไทยทุกคน
ความดี ยิ่งพูด ยิ่งทำ.. ยิ่งมีพลัง…เห็นชัดค่ะ เพราะเคยฟังคุณดนัยพูดนานกว่านี้ (ประมาณว่า 2 ชั่วโมง up) แต่ครั้งนี้สามารถสื่อสารออกมาได้ภายใน 5 นาที…คงเป็นเพราะพลังความดีของคุณดนัยนั่นเอง…ยิ่งมีพลัง ยิ่งทำ ยิ่งพูด…ยิ่งทำให้คนเห็น “ความดี ” มากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ…ขอเป็นหนึ่งพลังในการสร้างสรรความดีค่ะ…(^_^)
ด้วยใจที่ศรัทธาต่อแผ่นดินเกิดผมเป็นข้าราชการเล็ก ๆ คนหนึ่งได้พยายามสร้างเครือข่ายด้านความมั่นคงด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศด้วยการนำปรัชญา เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ แต่ด้วยเงื่อนไขในระบบราชการจึงมีปัญหาในด้านการปฏิบัติหลายด้านจึงค่อนข้างลุ่ม ๆ ดอน ๆ อยู่ ผมเป็นคนหนึ่งที่เป็นลูกศิษย์อบรมหลักสูตรผลิตผู้นำของหน่วยงานกับอาจารย์ดนัย…(ผ่าน ดร.จีระฯ) ประทับใจในจิตใจที่มุ่งมั่นบริสุทธิ์ที่มีต่อประเทศชาติและประชาชน ผมมีแนวคิดในยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาของชาติมามายโดยเฉพาะในอีสานต้องใช้แนวทาง เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาปรับใช้ครับ…ดีใจที่เห็นเครือข่ายภาคสังคมตื่นตัวอย่างกว้างขวาง ผมหวังว่าสกวันหนึ่งจะได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในขบวนการสร้างชาติ มากกว่าจะอยู่ในกระบวนการแก้ไขปัญหาของชาติ(เฉพาะหน้า)ครับ……http://www.kkbp.net
เป็นกำลังใจให้คุณศักดิ์นะครับ
ขอให้สู้ต่อไป อย่าท้อแท้ และอย่าท้อถอย
ความดีทำได้ยาก แต่เป็นสิ่งที่ควรทำ …
หากท้อเมื่อใด ให้นึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
จะได้มีกำลังใจต่อไปครับ … O.O
ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจ…ผมได้เริ่มทำงานเครือข่ายภาคประชาชนเพื่อความมั่นคงของชาติมา ๕ ปี ในนามโครงการบ้านปลอดภัย http://www.kkbp.net มีเครือข่ายที่เป็นผู้นำองค์กรชาวบ้าน องค์กรพัฒนาเอกชน ข้าราชการ ผู้นำศาสนาอิสลาม นักจัดรายการวิทยุชุมชน สื่อมวลชน รวม ๑,๕๐๐ คน มีกิจกรรมการบริหารเครือข่ายระดับภาค จำนวน ๘๐ คน ที่ผมลงพื้นที่และทำงานในภาคอีสานมา ๑๗ ปี (ผมเป็นคนอีสาน) ได้พบเห็นวิถีชีวิต วัฒนธรรม ทัศนคติ และปัญหาของคนอีสานที่มามากพอสมควร ปัญหาความขัดแย้งในปัจจุบันไม่มีอะไรมากไปกว่ากลุ่มประโยชน์แสวงจุดอ่อนของคนอีสานที่มีความยากจน ซื่อสัตย์ เชื่อคนง่าย รักพวกพ้อง ไม่ยอมในสิ่งที่เชื่อว่าไม่เป็นธรรม ผ่านกิจกรรมปฏิบัติการจิตวิทยาทุกรูปแบบทั้งทางสื่อวิทยุชุมชน โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม มีนักพูดนักวางแผนชั้นเยี่ยม มีทุนสนับสนุนอย่างเต็มที่จึงเกิดเหตุการณ์ ๑๙ พ.ค.๕๓
การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันในส่วนตัวผมคิดว่าไม่ยากนะครับ ขอพียงเรามีสติปัญญาความเป็นกลางคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ปัญหาของประเทศในภาพรวมแล้ว ผมว่าต้องเริ่มทำงานในเชิงจิตวิทยามวลชนปรับทัศนคติในพื้นที่อีสานก่อนแล้วค่อยขยายไปในพื้นที่อื่น ๆ เพราะการแพ้ชนะทางการเมืองและนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ อยู่ที่อีสาน (จุดกำเนิดของนักการเมือง) ขอเพียงเรายึดแนวทางพระราชทานขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในปรัชญา เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา มาปรับใช้ด้วยการเข้าใจคนอีสานอย่างลึกซึ้งก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้คือ เข้าใจคนอีสาน:ความรู้สึก ทัศนคติ วัฒนธรรม หลักคิดของคนอีสาน ความทุกยากของคนอีสาน เข้าถึงคนอีสาน:ผ่านมิติทางวัฒนธรรมอีสาน วัฒนธรรมพื้นบ้าน หมอลำ ประเพณี งานบุญฯลฯ เป็นสื่อในการเข้าถึงเพราะคนอีสานชอบสนุกร่าเริง(เป็นวัฒนธรรมวีถีชีวิตท้องถิ่นดั้งเดิม) พัฒนาอีสาน:ร่วมมือกับประชาชนทุกภาคส่วนที่เกิดจิตสำนึกร่วมกำหนดแนวทางพัฒนาเชิงสร้างสรรค์ร่วมกัน การดำเนินการทั้งหมดต้องมีจุดเริ่มต้นด้วยการตั้งจุดประสานเครือข่ายร่วมในพื้นที่ในลักษณะองค์กรมหาชน/หรือองค์กรอิสระ (มีสำนักงานถาวร) มีกฎหมายรองรับ มีงบประมาณ บุคลากรจากทุกภาคส่วน มาขับเคลื่อนทำงานร่วมกัน เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทำหน้าที่ประสานการแก้ไขปัญหาในทุกเรื่องจากประชาชน มีกิจกรรมร่วมกันเพื่อสร้างเครือข่ายในพื้นที่ผ่านกิจกรรมสาธารณะ อาทิ กิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัย บูรณะวัดโรงเรียน ปลูกต้นไม้ จัดผ้าป่าสามัคคี ฯลฯ ก็จะทำให้เกิดการประสานเครือข่ายพื้นที่ต่อพื้นที่ และที่สำคัญจะเกิดจิตสำนึกร่วมที่จะทำงานเพื่อสังคมส่วนรวม (ซึ่งทุกคนมีอยู่แล้วแต่ขาดการนำ/องค์กรประสานงานกลาง)
ทั้งหมดนี้เป็นพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นจะต้องมีการพัฒนาต่อยอดอย่างจริงจัง และต่อเนื่องไปในมิติที่หลากหลาย ในเรื่องสิ่งแวดล้อม สาธารณะสุข ยาเสพติด วัฒนธรรมท้องถิ่น การศึกษา เศรษฐกิจพอเพียงฯลฯ และที่สำคัญต้องสร้างฐานมวลชนไปสู่เด็ก เยาวชน ซึ่งเป็นวิกฤติที่ซ้อนวิกฤติในปัจจุบันและเป็นปัญหาของชาติที่ใหญ่กว่าในอีก ๑๐-๒๐ ปีข้างหน้า ผมว่าต้อง เริ่มคิด เริ่มสร้าง เริ่มลงมือทำ ไม่อย่างนั้นแล้วประเทศไทยจะเดินไปในทิศทางที่ทุกคนไม่ปารถนา… ภาคประชาชนต้องเข้มแข็งเพื่อกำหนดทิศทางของประเทศเพราะกระบวนการทำงานในภาครัฐและการเมืองนั้นไม่เอื้อต่อการคิดสร้างสรรค์ในเชิงนวัตกรรมใหม่ ๆ ในลักษณะคิดนอกกรอบ..ผมหวังว่าสักวันหนึ่งผมจะได้นำประสบการณ์ที่สั่งสมมาทำในสิ่งที่เรียกว่าการสร้างความมั่นคงของชาติอย่างยั่งยืน…มากกว่าคำว่าแก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติอย่างเช่นในปัจจุบัน….
ศักดิ์: 0894177768 sak2543@yahoo.com
ฟังถึงตอนที่ร้องเพลงชาติทุกวันแล้ว น้ำตาไหลเลยอ่ะค่ะ T_T