อัศจรรย์พลังจิต
แก้ขาไม่เท่ากัน กระดูกคด ได้ชั่วพริบตา จริงหรือ!
อเล็กซานเดอร์ – แคโรลีน ทอสการ์
ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ด้านพลังจิตแห่งการบำบัดชาวเยอรมัน
ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก !!
บุคคลที่ได้รับการบำบัดจนหายได้แก่
1.ชาย ชาตโยดม
ดารานักแสดง
2.วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา
พิธีกรรายการโทรทัศน์
3.ลีซอ ธีรเทพ วิโณทัย
อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย
4.ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน
พิธีกรรางวัลมณีเมขลา
5.คุณสิ สิริรัตน์ เรืองศรี
มิสไทยแลนด์เวิลด์
วันนี้จะนำเรื่องราวของอเล็กซานเดอร์ และ แคโรลีน ทอสการ์มาเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปการใช้พลังจิตบำบัดได้อย่างไร?
อเล็กซานเดอร์ ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ด้านพลังจิตแห่งการบำบัดชาวเยอรมัน ที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก เป็นบุตรชายของ พจตร์ เอลคูโนวิซ ชาวรัสเซีย ผู้รักษาผ่านทางจิต บุคคลที่ค้นพบพลังพิเศษที่ทรงอานุภาพ ได้ซึมซับแนวคิดนี้ และมีความสนใจอยากทำงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ นับว่าคุณอเล็กซานเดอร์นั้นโชคดี ที่คุณพ่อเห็นความตั้งใจและถ่ายทอดวิชาให้
อเล็กซานเดอร์ เล่าให้ฟังว่า พ่อของเขามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะค้นคว้าและเอาชนะปัญหาในแง่มุมที่มองไม่เห็นในร่างกายมนุษย์ เขาศึกษาหนังสือของอินเดียที่มีเรื่องการทำสมาธิทางจิตและเทคนิคการหายใจ ซึ่งเขานำมาทดลองใช้เอง โดยไม่มีผู้ใดทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เขาจะลุกขึ้นมาทำการฝึกโยคะที่ซับซ้อนทุกๆ เช้ามืดตอนตี 3 ครึ่ง หลัง 6 โมงเช้าเขาจะขึ้นรถไปทำงาน
วันหนึ่งในฤดูหนาว ค.ศ. 1989 พ่อถึงกับต้องนอนแผ่ อยู่กับพื้นเพราะลุกไม่ขึ้นหลังจากการฝึกโยคะ เขาคร่ำครวญปวดหลังอย่างรุนแรงและเคลื่อนไหวไม่ได้ แพทย์ได้วินิจฉัยว่าพ่อมีอาการเสื่อมสภาพของกระดูกสันหลังเนื่องจากกระดูกเชิงกรานเบี้ยว พร้อมทั้งทํานายว่าเขาจะต้องได้รับความเจ็บปวดไปตลอดชีวิตและไม่สามารถทํางานได้อีกต่อไป แต่พ่อกลับไม่ยอมรับในเรื่องนี้ และการผ่าตัดก็เป็นเรื่องที่ไม่เคยอยู่ในความคิดของพ่อด้วย ขณะนั้นพ่อยังมีอายุไม่ถึง 40 ปีเลยด้วยซ้ำ แต่กลับพยายามแสวงหาหนทางรักษากับหมอคนอื่นๆ รวมทั้งนักรักษาและนักกายภาพบําบัด
แต่ทั้งหมดล้วนไม่ประสบความสําเร็จ และเพราะความจริงที่ว่าการแพทย์ทั้งแผนปัจจุบันและการแพทย์ทางเลือกไม่สามารถช่วยเขาได้ เขาจึงหันเข้าหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พ่อใช้เวลาทั้งกลางวันกลางคืนในการสวดมนต์นานถึง 9 เดือนเพื่อขอความช่วยเหลือและให้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยนําทาง ในเวลาเดียวกันก็ไข่วคว้าหาแรงจูงใจทุกอย่างเอาไว้ และเริ่มต้นการค้นคว้าอย่างหนักในสาขาด้านการรักษาผ่านทางจิต
การศึกษาในเรื่องการรักษาผ่านทางจิตทําให้เขาเข้าใจได้ว่า ยาและการนวดหรือการจัดกระดูกสันหลังให้เข้าที่นั้นเป็นเพียงวิธีการทางภายนอกเท่านั้น และที่ไม่ใช่ความช่วยเหลือที่ถาวร เพราะไม่ได้เข้าไปแตะต้องถึงสาเหตุทางจิตวิญญาณที่อยู่ลึกลงไปข้างใน มันจึงไร้ผลเมื่อต้องประสบกับปัญหาเรื่องกระดูกเชิงกรานเบี้ยว หรือไม่เสมอกัน หรือขาที่ยาวไม่เท่ากัน หรือเรื่องของหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนที่ คุณพ่อของอเล็กซานเดอร์พบว่า ที่กระดูกสันหลังของมนุษย์เรามีสิ่งกีดขวางพลังงานที่ทําให้ทุกส่วนในร่างกายไม่สามารถประสานกลมกลืนกันได้และลักษณะนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เราอยู่ในท้องแม่แล้ว
นอกจากนี้ยังเป็นตัวรบกวนการทํางานของร่างกายทั้งหมด รวมทั้งวิญญาณและจิต อีกทั้งยังสามารถนําไปสู่การเกิดโรคต่างๆ ได้ในที่สุด การรบกวนหลายๆ ลักษณะนี้มีต้นตอมาจากความไม่ประสานกลมกลืนกัน ซึ่งเกิดภายในกายของมนุษย์ ในการเรียนรู้ถึงความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันนี้ทําให้เขาพบคําอธิบายเรื่องความเจ็บปวดของเขาเอง ที่สืบเนื่องจากกระดูกเชิงกรานเบี้ยวไม่เสมอกันทําให้เกิดอาการปวดที่กระดูกสันหลัง และมีอารมณ์แปรปรวนเป็นผลลัพธ์อยู่นานหลายปี
คุณพจตร์ เอลคูโนวิซได้ ตัดสินใจในวันหนึ่งว่าจะเดินทางกลับไปที่อิสราเอลอีกครั้ง ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1990 ได้ไปเยี่ยมสถานที่ซึ่งมีความหมายด้านจิตวิญญาณ ที่รวมทั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในเมืองเยรูซาเลมด้วย หลานสาวของเขาแนะนําว่า เขาควรจะนํากระดาษไปจดสิ่งที่เขาปรารถนาไปวางไว้ที่กําแพงโซโลมอน แต่ที่จริงแล้วพ่อไม่ได้มีความปรารถนาแต่อย่างใด หลานคนนั้นอธิบายต่อไปว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่มาที่กําแพงศักดิ์สิทธิ์ของศาสนายิวแห่งนี้ จะเขียนแผ่นความปรารถนากันทั้งนั้น และรบเร้าให้พ่อทําเช่นนั้นอยู่นาน จนกระทั่งพ่อได้เขียนข้อความที่ออกมาจากส่วนลึกของหัวใจว่า “ฉันปรารถนาให้มนุษย์ทุกคนที่เจ็บป่วยในโลกนี้มีสุขภาพดี ฉันปรารถนาให้มีสันติสุขขึ้นในโลกทั้งหมด”
เขาไม่ได้ปรารถนาสิ่งใดสําหรับตัวเขาเอง แต่เพื่อให้เพื่อนมนุษย์มีความ สุขสบายมากขึ้น ตัวเขาเองมีทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เขาพอใจในตนเองและในชีวิต ครอบครัวของเราแม้เขาจะเจ็บป่วยเป็นโรคก็ตาม หลังจากที่เขาเดินรอบกําแพง ร้องทุกข์ไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ปรากฏว่าบรรยากาศรอบตัวเขาทั้งหมดได้เปลี่ยนแปลงไปในฉับพลัน เขาได้รับแสงสว่างนําทางอันแรงกล้าที่เปิดเผยว่าเขาได้รับอนุญาต ให้เข้าสู่ความรู้ขั้นสูงสุด หลังจากที่เขาแสวงหาการรักษาเยียวยาอยู่หลายเดือน เขาก็ได้ยกระดับจิตของเขาเข้าสู่ระดับที่สูงขึ้นของสวรรค์ ความตั้งใจและความเชื่อ “มันเป็นพลังของเบื้องบน ที่ส่งผลผ่านทางตัวฉัน” พจตร์ กล่าวไว้
ในหลายปีที่ผ่านมา พ่อได้รักษาคนเป็นจํานวนมากกว่า 100,000 คนจากทั่วโลกให้หาย มีบางส่วนที่ป่วยหนัก และบางส่วนที่บําบัดรักษาตามแบบแพทย์แผนปัจจุบันไม่เคยหาย “สําหรับฉันแล้วไม่มีโรคใดที่จะรักษาไม่หาย ถ้าคนเราพร้อมที่จะให้ตนเองมีสุขภาพดี เขาก็จะมีสุขภาพดีแน่นอน ฉันจะช่วยเขาอยู่ข้างๆ” การทําหน้าที่นําทางจิตของพ่อนั่นเองที่ได้ช่วยถ่ายทอดความมั่นใจในความช่วยเหลือจากเบื้องบน ความปรารถนาต่อการรักษาให้หายและถ่ายทอดพลังที่จะรักษาตนเองให้มนุษย์ ด้วยความเมตตาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และจิตสํานึกของสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่นเองที่ได้เข้ามาสู่จิตสํานึกของพ่อผม มันเป็นความจริงแท้ระดับสูงที่เขาประสบ ผ่านทางการจัดโครงสร้างร่างให้ตรงที่ทําให้จิตของเขาครอบครองพลังที่สามารถทําการรักษามนุษย์ทั้งหมดให้หายได้
หลังจากที่ได้เรียนรู้รับการถ่ายทอดพลังจากคุณพ่อ ก็ได้ทำงานทางด้านนี้มาโดยตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี จากนั้นก็ได้เริ่มตั้งศูนย์การเยียวยาอย่างเป็นทางการที่ประเทศเยอรมนี
อเล็กซานเดอร์ ทอสคาร์ เรียนจบมาทางดีไซน์ และเข้าทำงานทางด้าน ได้พบรักกับแคโรลีนตอนที่ไปเรียนโยคะ เธอมีความสนใจเกี่ยวกับจิตวิญญาณเช่นเดียวกับหรือที่ผู้คนทั่วไปมักเรียกกันว่า “เคมีตรงกัน” นั่นเอง หลังจากที่ได้ร่วมกันปลูกต้นรักและตกลงปลงใจแต่งงาน ทั้งคู่ได้ร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิจิตวิญญาณและสุขภาพที่ดี (spiritual-health-foundation) เพื่อพัฒนาและส่งเสริมสุขภาพจิตวิญญาณของมนุษย์และเพื่อความสุขของเด็กๆ ผู้ด้อยโอกาสในสังคม เมืองมิวนิก และโคโลญน์ ประเทศเยอรมนี, เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และประเทศไทย ในนาม มูลนิธิสงเคราะห์เด็ก พัทยา
ผลของการใช้พลังรักษาผู้คนที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้เป็นพ่อ ทำให้ผู้ป่วยหายจากโรคภัย และได้ติดตามดูแลให้คำปรึกษา แนะนำทางแห่งแสงสว่าง และมีชีวิตอยู่กับความรักในชีวิตประจำวัน
สิ่งเหล่านี้คือแก่นสารสำคัญในงานที่จะทำให้สำเร็จตามเป้าหมายได้ด้วยความเสียสละ พวกเขาเดินทางไปในยุโรป เอเชีย และอเมริกาอย่างสม่ำเสมอเพื่อทำงานรักษาที่มีแต่บุญกุศลนี้ให้บังเกิดผลในวงที่กว้างขวางยิ่งขึ้น จากการเดินทางรักษาผู้ป่วยจากทั่วโลกทำให้ อเล็กซานเดอร์ และ แคโรลีน ทอสคาร์ เป็นที่รู้จักและเคารพนับถืออย่างกว้างขวาง มีผู้ป่วยจากหลายคนที่ได้รับการรักษาจนอาการป่วยที่เป็นอยู่ทุเลาลงได้ราวกับปฏิหาริย์ ซึ่งศาสตร์แห่งพลังจิตอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเกินจริงสำหรับบางคน แต่กับอีกหลายพันคนที่เคยได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้ ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันถึงผลลัพธ์และความสำเร็จของศาสตร์นี้
พลังจิตบำบัดนับเป็นการแพทย์ทางเลือกแขนงหนึ่งที่ใช้หลักการพื้นฐานของ ‘การประสานจักระพลังงานบริสุทธิ์‘ รวมเอาตัวตนมนุษย์ทั้งหมด 3 ด้านเอาไว้ คือ ร่างกาย วิญญาณ และจิต ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างน่าอัศจรรย์ สามารถทำให้เราแข็งแรงได้
ซึ่งพลังแห่งจิต ต้องเป็นคนที่มีความเชื่อเท่านั้นถึงจะฝึกฝนพลังเหล่านี้ได้ โดยคนที่มีพลังจิตได้นั้นต้องเป็นคนที่สามารถตัดสินใจได้อย่างประสบความสำเร็จ
การเข้าไปใกล้ชิดกับกระบวนการรักษาซึ่งมาจากพลังของหัวใจ.. สำคัญที่สุดก็คือความอดทนในการฝึกฝน มุ่งมั่น ค่อยๆ ฝึกให้มีพลังเหล่านั้นจึงจะประสบผลสัมฤทธิ์
ดังนั้น หากผู้ใดต้องการศึกษาศาสตร์การรักษาด้วยพลังจิตแล้ว จุดเริ่มต้นต้องอยู่ที่ใจของเราว่าต้องการพัฒนาและฝึกหัดให้มีพลังเหล่านี้ขึ้นมา…
แคโรลีน และอเล็กซานเดอร์ ทอสการ์ ผู้มีพลังจิตในการรักษาผู้คน อีกทั้งเป็นนักมังสวิรัติตัวยงด้วย เดินทางมาประเทศไทยเมื่อ 12 ปีก่อน และได้ช่วยรักษาผู้ป่วยมากว่า 1,000 คน เหตุที่ทำให้เรากลับมาตระหนักว่า เทรนด์ของโลกในการดูแลสุขภาพกายใจที่ไม่ต้องใช้เงินนั้น เป็นมานานแล้ว และต้นธารการรักษาด้วยพลังจิตก็มาจากภูมิปัญญาตะวันออกนี่เอง โดยเฉพาะพุทธศาสนาที่มีเทคนิคในการเยียวยาตนเองอย่างลึกซึ้งยิ่ง เพียงแค่หายใจอย่างมีสติจนเกิดเป็นสมาธิ เราก็จะพบความมหัศจรรย์ของลมหายใจในการดูแลตนเองที่ไม่ต้องไปพึ่งหมอและยา ซึ่งตรงกับงานวิจัยที่ว่า โรคทั้งหลายกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ หายได้ด้วยใจของเราเอง
ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย เจ้าของสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี เล่าให้ฟังถึงที่มาแคโรลีน และอเล็กซานเดอร์ ทอสการ์ ผู้ช่วยรักษาโรคให้แก่ผู้คนด้วยพลังจิตว่ามาเจอกันได้อย่างไร
“คุณอเล็กซานเดอร์ได้ส่งอีเมลมาหาผมก่อน เขาบอกว่า อยากรักษาผู้ป่วยสัก 30 คน ฟรีไม่เก็บตังค์ เราก็ดีใจ เขาเน้นการรักษาคนที่มีปัญหาเรื่องกระดูก ก็ประกาศไปทางวิทยุ ปรากฏว่ามีคนลงชื่อจะมารักษาถึง 300 คน เลยอีเมลกลับไปถามเขาว่า รักษาไหวไหม เขาบอกว่า ยินดี มีความสุขที่จะรักษา เราก็เลยชวนเชิญคนมาประมาณ 900 คน รวมพนักงานของเราอีก 100 คน เป็น 1,000 คนพอดี ก็รักษาตั้งแต่บ่ายสองโมงจนถึงสองทุ่ม สิ่งที่สังเกตคือ ระดับความเมตตาเขาที่มีให้แก่คนนั้นเท่ากัน จากคนแรกจนถึงคนสุดท้ายไปรักษาเสร็จตอนสามสี่ทุ่ม เขาก็ยังยิ้มแย้มแจ่มใส มีความสุข เพราะเขาอยากให้คนมีสุขภาพดี นี่คือสิ่งที่เราชื่นชม” และคิดว่าเป็นความอัศจรรย์ที่ได้เห็นพลังแห่งความเมตตาที่ไม่มีประมาณของเขา
ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย เล่าต่ออีกว่า ในวันนั้นก็ตั้งกล่องเก็บเงินทำบุญให้เขา ปรากฏว่าก็ไม่ได้เยอะนะครับ แล้วตอนจบก็ยกให้เขา และมีหนังสือ King Bhumibol Adulyadej จำนวน 3 เล่ม มอบให้ เขายิ้มและรับหนังสือเพียงอย่างเดียว
“เขาบอกจะไปอ่าน แล้วเอาเงินที่ได้จากเรายื่นกลับมาให้ผม เขาบอกว่า มีความสุขมากที่ได้รักษาคนเป็นพันคนในวันนี้ ช่วยเอาเงินไปทำบุญให้เขาหน่อย จะช่วยให้เขามีความสุขมากขึ้น จากนั้นเขาก็มาทุกปี ไปเยี่ยมเด็กพิการซ้ำซ้อน เด็กตาบอด ไปรักษาให้ฟรี”
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็มาเมืองไทยทุกปี ปีละหนึ่งเดือนเป็นอย่างน้อย และยังเดินสายไปช่วยเหลือผู้ป่วยตามโรงพยาบาลต่างๆ ด้วยจิตอาสา อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ความสุขจากการเป็นผู้ให้เช่นนี้
ที่มาของการบูรณาการศาสตร์ต่างๆ จนกลายมาเป็นศาสตร์พลังจิต พิชิตโรคร้ายด้วยใจเราเอง ที่นำมาช่วยรักษาผู้คน และสอนให้เขานำไปรักษาตนเอง เอล็กซานเดอร์อธิบายว่า เทคนิคการบำบัดตนเองนี้ใช้เวลาพัฒนามา 10 ปี สำหรับเทคนิคที่นำมาสอนคนไทยสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน คือ การประสานกาย จิต และวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียว รวมไปถึงการเพิ่มพลังจักรวาลเพื่อจะได้มีพลังในการรักษาตนเองได้มากขึ้น
“ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยการสร้างสมาธิและการเจริญสมาธิเพื่อบำบัดโรค การฝึกกล้ามเนื้อดวงตาเพื่อชำระล้าง และสร้างความแข็งแรง การฝึกหายใจตามแนวทางของพุทธศาสนา ที่จะทำให้เราเห็นความมหัศจรรย์ของลมหายใจ เพื่อรับพลังจักรวาลมารักษาตนเอง เราจะหายใจเต็มอิ่มด้วยกระดูกสันหลังอย่างไร การบำบัดด้วยการสวดมนตรา การศึกษาจักระเพื่อเพิ่มพลังชีวิต และที่สำคัญที่เราอาจจะละเลยกันก็คือ การบริโภคเพื่อสุขภาพและจิตวิญญาณ”
แคโรลีนเสริมในเรื่องการรับประทานอาหารว่า มังสวิรัติมีส่วนเพิ่มพลังที่ดีในการช่วยเหลือผู้คนเป็นอย่างมาก
“เราไม่ได้ไม่กินเนื้อสัตว์อย่างเดียว แต่หมายรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มาจากเนื้อสัตว์ก็ไม่รับประทานด้วย เช่น นม และไข่ เป็นต้น เรียกว่า เรารับประทานผักและผลไม้เป็นหลักเท่านั้น อาหารตรงนี้ไม่ได้มาจากการเบียดเบียนชีวิตใคร เป็นอาหารแห่งสันติสุข ทางด้านจิตใจ เพราะเป็นอาหารที่สะอาดบริสุทธิ์ และอาหารเหล่านี้มีความสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจ มีธาตุอาหารและองค์ประกอบที่สำคัญเพื่อรักษาสุขภาพ อาหารที่มีคุณค่ายิ่งคือ ผักและผลไม้สด เพราะอุดมไปด้วยพลังงานจากแสงแดดและเป็นสิ่งที่ย่อยง่าย”
เทคนิคการหายใจเพื่อรับพลังจักรวาล
…ลมหายใจเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่ไม่ซับซ้อน คนเราแทบจะไม่สังเกตด้วยซ้ำว่าเราหายใจอยู่ การหายใจอย่างมีสติเป็นกุญแจสำคัญสู่การมีสุขภาพที่ดี สร้างความกระชุ่มกระชวย และเป็นการค้นหาตัวตนที่แท้จริงในเวลาเดียวกัน เมื่อคุณได้เรียนรู้การหายใจอย่างมีสติ สอดคล้องกับจังหวะของจักรวาล คุณจะสามารถเชื่อมต่อกับพลังงานระดับสูงของอณูละเอียดแห่งจักรวาล และจะเข้มแข็งขึ้นทั้งกายและใจ อีกทั้งการทำงานของกายละเอียด และศูนย์กลางแห่งจิตวิญญาณหรือจักระก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการหายใจอย่างชัดเจน
นอกเหนือจากนี้แล้ว การหายใจอย่างมีสติและผ่อนคลายจะทำให้เรามีสุขภาพกายที่แข็งแรงและมีความสุขในชีวิต การหายใจคือสิ่งที่อยู่คู่กับชีวิตเรา ตั้งแต่ลมหายใจเมื่อแรกเกิดจนถึงลมหายใจสุดท้ายที่วิญญาณละสังขารไป ในระหว่างตั้งครรภ์ ทารกได้รับลมหายใจจากมารดาหล่อเลี้ยงชีวิต เมื่อทารกเกิดและสายสะดือถูกตัดขาด ลมหายใจแรกก็จะแทรกผ่านปอดของเด็กน้อย และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเชื่อมต่อโดยตรงกับจักรวาล …
ศาสตร์แห่งพลังจิต พิชิตป่วยด้วยหัวใจ
พลังจิตรักษาโรคอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เกินจริง แต่ แคโรลีน และอเล็กซานเดอร์ ทอสคาร์ กล่าวว่า การตั้งจิตอธิษฐานในสิ่งที่มีอยู่ทั้งหมดอย่างสอดคล้องกัน จะทำให้บังเกิดแสงสว่างได้ นัยความหมายของแสงสว่าง เริ่มจากแสงสว่างทางใจ
มนุษย์มีอะไรมากกว่าที่เราจับต้องได้หรือมองเห็นได้ วิทยาศาสตร์ การแพทย์ปัจจุบัน ครอบคลุมได้ไกลที่สุดได้แค่ร่างกายเท่านั้น
ศาสตร์แห่งพลังจิต พิชิตป่วยด้วยหัวใจ เมื่อความเจ็บปวดทรมานทางภายนอกถูกบำบัดไป อาการของโรคก็บำบัดได้ แต่จริงๆ แล้วสาเหตุของโรคยังคงอยู่ และกลับมาเป็นอีกเรื่อยๆ ยารักษาโรคได้โดยตรง จิตจะรักษาได้โดยอ้อม เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาที่จะต้องมาเถียงกันว่าโรคทางจิตสามารถเกิดขึ้นได้และรักษาให้หายได้ เพราะจิตสามารถสร้างองค์ประกอบทางเคมีที่บำบัดโรคได้
ยามีผลขั้นแรกกับร่างกาย แล้วขั้นที่สองกับจิตวิญญาณ ขณะที่การแผ่พลังศักดิ์สิทธิ์มีผลกับจิตวิญญาณก่อน แล้วจึงผ่านมาที่ร่างกาย เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุขภาพจะถูกเรียกว่า สิ่งที่ดีที่สุด
อเล็กซานเดอร์มีจุดเน้นไปที่แกนหลักของร่างกาย ซึ่งหมายถึง…กระดูกสันหลัง ตั้งแต่คอ ต้นไหล่ ไล่ลงมาถึงสะบักเอว ถ้าแกนลำตัวไม่คด โก่ง งอ ก็จะทำให้ส่วนอื่นๆ ของร่างกายดี เลือดลมไหลเวียนดี ความไม่เท่ากันของความยาวขา เป็นอีกส่วนที่สำคัญ ถ้าแกนหลังตรงแล้ว ก็จะทำให้ขาเท่ากัน ไม่คด…ไม่โก่ง
บางคนขาไม่เท่ากัน สะโพกเอียง เดินโยกไปเยกมาไม่สมดุล มีผลจากแกนกลางของร่างกายมีปัญหา …การนั่งสมาธิ การคิดดี ทำดี การมีเมตตา มีความรักให้กับผู้อื่น เราจะได้รับสิ่งดีๆ กลับมาในร่างกาย สิ่งดีๆ ที่ว่านี้จะเป็นพลังในตัวเอง ใช้รักษาตัวเองได้ การที่เรามีใจดี ก็จะทำให้สิ่งรอบๆ ตัวเราดีไปด้วย
หลักของพลังจิตรักษาโรค อยู่ที่ตัวเรา สามารถทำให้เราแข็งแรงได้ แต่ที่เราเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นเพราะเราไม่รู้วิธีการกระตุ้นนั่นเอง
ความเชื่อ!
การเดินทางเชิงจิตวิญญาณ
อเล็กซานเดอร์และแคโรลีน ทอสการ์ ได้กล่าวในหนังสือสามประสานในหนึ่งเดียว กาย จิต วิญญาณว่า ชีวิตทางจิตวิญญาณมักเป็นไปในทางที่คดเคี้ยววกวน และแม้ว่าชีวิตทางจิตวิญญาณจะเป็นไปตามแต่แนวทางของบุคคลก็ตาม แต่ก็ยังมีขั้นตอนที่เปรียบเทียบและขีดจำกัด ประการแรกบุคคลหนึ่งต้องเผชิญกับอุดมคติใหม่ สิ่งที่เป็นตัวอทนแห่งการเติมเต็ม และการสร้างสิ่งที่สมบูรณ์แบบอันเป็นไปได้ ซึ่งสิ่งดังกล่าวนี้จะปลุกสิ่งที่อยู่ลึกข้างใน ประหนึ่งแรงปรารถนาอันศักดิ์สิทธิ์ และปลุกความเชื่อมั่นศรัทธาอย่างลึกซึ้งไร้ขีดจำกัด
การเผชิญหน้าดังกล่าว อาจเป็นบุคคลทางจิตวิญญาณผู้หนึ่ง ลัทธิหนึ่ง หนังสือเล่มหนึ่ง คำสอนหนึ่งทางจิตวิญญาณ หรือประสบการณ์หนึ่งทางจิตวิญญาณ และทันใดนั้นเราจะพบร่องรอยบางสิ่งที่ดำเนินเหนือโลกทั่วไป นั่นคือระดับของภาวะที่บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นของจิตใจ และการระลึกรู้ที่สูงยิ่งขึ้น ความเชื่อมั่นศรัทธานี้เป็นมากกว่าอารมณ์โดยสัญชาตญาณ
ความเป็นเอกภาพแห่งกาย จิตและวิญญาณ
ความเป็นหนึ่งเดียวที่ประกอบด้วยกาย จิตและวิญญาณ แสดงถึงอัตลักษณ์ของมนุษย์แต่ละคน เมื่อแรกเกิด เราเกิดในสภาวะของความเป็นหนึ่งเดียว แต่เมื่อมีการเติบโต เรามีชีวิตอยู่ในโลกที่มีการแบ่งแยกเป็นคู่ เพื่อเติมเต็มตัวเราและสิ้นสุดด้วยสภาวะแห่งประสบการณ์และความรู้คือ ความเป็นเอกภาพของร่างกาย จิต และวิญญาณ
ในทุกระดับเปรียบเป็นสนามพลังงานที่เคลื่อนไหว อนุภาคจะถูกสั่นด้วยความถี่เฉพาะและส่งพลังงานออกมา สนามพลังงานต่างๆ ส่งผลต่อกันและมีการเคลื่อนไหวแลกเปลี่ยนพลังงานตลอดเวลาเช่นเดียวกับร่างกายของคนเรามีการตอบสนองต่อกายสัมผัส และกายแห่งจิต ซึ่งจิตที่ได้รับการฝึกจนสงบนิ่ง เรียกป็นวิญญาณ (ธาตุรู้) และมุ่งสู่ปัญญาแต่ในทางกลับกันพฤติกรรมของจิตและวิญญาณ มีผลต่อความรู้สึก เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อสุขภาพของคนเรา ร่างกายซึ่งสัมผัสจับต้องได้ เปรียบดั่งที่อาศัยแห่งวิญญาณในชั่วระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งแท้จริงแล้ววิญญาณมิได้จำเป็นต้องใช้กายเสมอไป
ต่างจากจิตที่ได้ชีวิตจากวิญญาณและมีที่ตั้งคือสติในนนนแต่ละบุคคล จิตเป็นดั่งสิ่งเชื่อมระหว่างกายและวิญญาณ และเป็นดั่งช่องทางผ่านของพลังงานทั้งสองส่วน ซึ่งสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างร่างกายและจิตคือระบบประสาทต่างๆ ต่อมไร้ท่อและเลือดที่ไหลเวียนในร่างกาย ต่างจากกายทิพย์ ซึ่งมีจักระเป็นตัวเชื่อม จิตเป็นสิ่งที่ไร้รูปไม่สามารถเข้าถึงได้ดั่งวิญญาณ จิตเพียงอาศัยอยู่ชั่วคราวในร่างกายเรา และเรียนรู้การชำระจิตตนให้บริสุทธิ์และถึงพร้อมปราศจากมลทินใดๆ ของกาย จิต และวิญญาณเป็นพื้นฐานสำคัญและจำเป็นของโลกแห่งจิตวิญญาณ
หลักการรักษาสุขภาพด้วยจิตวิญญาณ
การสวดมนต์ เจริญสมาธิและภาวนาเป็นการทำให้คนรู้จักตัวตนที่แท้จริงของตนเอง และเรียนรู้จักรวาล เปรียบเหมือนตัวคุณยืนอยู่หน้าประตูที่สามารถเปิดออกไปในที่ใดๆ ได้ตามที่ต้องการ เพราะตัวเราคือจักรวาลนั่นเอง
การพัฒนายกระดับจิตใจ ทำให้กายและใจของเรามีการสั่นไหวเช่นเดียวกับการสั่นของจักรวาล เพื่อการมีชีวิตที่สอดคล้องกับสรรพสิ่งและการเติมเต็มของตัวคุณ จงพยายามสร้างและทำความคิดต่อไปนี้ให้เป็นจริง
1.การบำบัดรักษาเป็นการพิสูจน์การมีอยู่จริงและผลของพลังแห่งจิตวิญญาณ
2.เราไม่ต้องการผู้วิเศษ ความเชื่อมั่นและมั่นใจในตนเองก็เพียงพอต่อการสร้างพลังรักษาที่เราสามารถเชื่อมติดต่อกับแหล่งพลังงานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และเราน้อมรับสิ่งนั้น
3.การมีสุขภาพดีเป็นพื้นฐานสำคัญของกฎเกณฑ์แห่งจักรวาลและเราสามารถเรียนรู้กฎเกณฑ์ดังกล่าวจาการมีสุขภาพดีของเราได้
4.ความเจ็บป่วยทั้งหลายสามารถรักษาได้ด้วยพลังจิตและวิญญาณ
5.จงอย่าถามว่ารักษาได้หรือไม่ แต่จงน้อมรับในปรัชญาและความปรารถนาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณนับถือ จงเปิดกายใจให้พร้อมในการรับความช่วยเหลือจากเบื้องบน
ความเชื่อมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของมนุษย์
หากมนุษย์เชื่อมั่นในสิ่งใด เขาก็จะประพฤติปฏิบัติตามสิ่งนั้น หลักการแห่งความเชื่อที่มนุษย์ไม่อยากเชื่อมากที่สุดคือ ความเชื่อมีผลหรืออิทธิพลต่อตนเอง เพราะสิ่งนั้นอยู่เหนือการรับรู้ของมนุษย์
มนุษย์มีธรรมชาติคุ้นเคยกับความคิด ความรู้สึกและสภาวะเชิงลบ สมองจะบันทึกข้อมูลเชิงฮอร์โมนตอบสนอง ซึ่งฮอร์โมนเป็นเหมือนเป็นสื่อกลางนำความต้องการต่างๆ ไปส่งยังส่วนต่างๆ ของร่างกายที่มีความเกี่ยวข้อง เพื่อรับรู้และตอบสนองตามคำสั่งการของสมองภายในเศษเสี้ยววินาที การตอบสนองนี้มักแสดงออกในรูปของการรบกวนหรือความเจ็บป่วยของร่างกาย คุณจะมีสุขภาพดีได้ก้ต่อเมื่อได้ทำการต่างๆ ด้วยจิตสำนึกของการมีสุขภาพที่ดี เมื่อเราไม่มีจิตสำนึกของฮอร์โมน เราก็ไม่รู้จักฮอร์โมน สื่อกลางก็จะถูกตัดขาดความเจ็บป่วยต่างๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น
ประสบการณ์จากผู้รับการรักษาจริง
โดนผู้ก่อการร้ายยิง หมอบอกเป็นอัมพาต แค่ใช่พลังจิตรักษา ขาขยับได้อย่างน่าเหลือเชื่อ!
ตํารวจนายหนึ่งที่จังหวัดตรัง ถูกผู้ก่อการร้ายยิงจนไม่สามารถเดินได้ แพทย์สรุปว่าอาจเป็นอัมพาตตามขวาง อเล็กซานเดอร์ได้ทำการรักษาด้วยพลังจิต และได้ถ่ายทอดพลังไปให้แก่พ่อและแม่ของตำรวจนายนี้ด้วย เพื่อให้สามารถถ่ายทอดพลังงานรักษาผ่านทางฝ่ามือที่วางทาบลงบนร่างของลูกชายได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้น 4 เดือน อเล็กซานเดอร์ได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยรายนี้อีกครั้ง ผลปรากฏว่า เขาสามารถยกแขนได้ และขาทั้งสองข้างก็สามารถเคลื่อนขยับขึ้นได้
เหลือเชื่อ! กระดูกสันหลังงอก รักษาหายได้อย่างอัศจรรย์!
มีคุณแม่ท่านหนึ่งพาลูกชายมาอายุ 5 ขวบ ซึ่งมีอาการกระดูกสันหลังงอก ในทางการแพทย์เขายังผ่าตัดไม่ได้ เพราะยังเด็กเกินไป คุณแม่ก็พามารักษา และอยากสื่อสารกับคุณอเล็กซานเดอร์ว่า ลูกเขามีกระดูกงอกตรงนี้ พยายามจะบอกอาการ แต่เขาก็รักษาให้เลย โดยใช้พลังจิตรักษา ปรากฏว่ากระดูกงอกหายไปราวปาฏิหาริย์ แม่เขาร้องไห้โฮเลย
พลังบำบัดหายราวปาฏิหาริย์ “ขาไม่เท่ากัน”
อเล็กซานเดอร์และ แคโรลิน ทอสการ์ ทั้งสองได้ทำการบำบัดรักษาเด็กชาย อายุ 14 ปี ที่ขาไม่เท่ากัน 2 เซนติเมตร และไม่สามารถนั่งสวดมนต์ได้ ซึ่งหลังจากได้รับพลังภายในไม่เกิน 2 วินาทีก็เห็นผลทันทีว่า กระดูกสันหลังและสะบักหลังตรง ขาเท่ากัน เดินได้ปกติ นั่งสวดมนต์ได้ราวกับปาฏิหาริย์
หยุดวิ่ง! เพราะขาไม่เท่ากัน
อัศจรรย์พลังบำบัดเปลี่ยนชีวิต!
ดร. วิทย์ สิทธิเวคิน พิธีกรรางวัลมณีเมขลา ที่ไม่สามารถวิ่งได้ และแพทย์ลงความเห็นว่าให้หยุดวิ่ง แต่หลังจากได้รับการรักษาโดยไม่ต้องสัมผัสตัว ปรากฎว่าขาเท่ากัน ช่างเป็นเรื่องอัศจรรย์ ปัจจุบันออกกำลังกายวิ่งได้คล่อง กระฉับกระเฉง
คุณเบิร์ด
จิตอาสาผู้นำ ศาสตร์พลังบำบัดที่เรียนรู้ไปช่วยเหลือคนอื่น
คุณเบิร์ดเล่าใหฟังว่าตนเองป่วย เป็นภูมิแพ้ แพ้ยาแก้อักเสบ แพ้แดด แพ้ฝุ่น แพ้อาหารหมักดอง และเป็นไวรัสในกระดูกสันหลัง ที่เป็นเพราะตอนนั้นตั้งท้อง เป็นไฟลามทุ่ง ขยุ้มตีนหมา เป็นเชื้อไวรัส (งูสวัด) และหลังจากนั้นผ่านไปหนึ่งปี มีผลข้างเคียงคือมีอาการเหนื่อยง่าย หมดเรี่ยวแรง ความจำสั้น ปวดกระดูก สารพัดโรครุมเร้า และในขณะขั้นมีหน้าที่ดูแลแม่ด้วย ซึ่งคุณแม่ก็มีโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดัน หัวใจ หัวเข่าเสื่อม ต้องพาไปหาหมอเป็นประจำ บางครั้งนั่งรอเป็นวันๆ ได้เห็นคนที่เจ็บป่วยมากมาย มานั่งรอหมอ และเห็นความทุ่มเทของหมอที่ต้องทำงานอย่างหนัก
ในขณะที่นั่งอยู่นั้น เกิดความคิดว่า จะมีวิธีรักษาอย่างอื่นไหม? ที่ไม่ต้องมาที่โรงพยาบาล ก็เกิดความสนใจศึกษาวิธีการรักษาสุขภาพ และได้พบทางเลือกใหม่ซึ่งเปิดเจอในยูทูป และได้เรียน ซึ่งก่อนที่จะเรียนนั้นตัวเองกำลังศึกษาเกี่ยวกับแรงดึงดูด พลังจิตใต้สำนึก เวลาที่สวดมนต์ไหว้พระ ก็ได้ตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้สุขภาพแข็งแรง ได้เจอครูบาอาจารย์ และก็มีความเชื่อว่า การที่ได้ดูยูทูปไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หลังจากดูจบก็ได้ติดต่อทางสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี ขอสมัครเรียน ซื้อหนังสือและดีวีดี หลังจากที่ได้ดูและอ่านหนังสือทำให้เราเข้าใจ และวันที่มาเรียนทำให้เราเข้าถึงพลังงานที่อาจารย์อเล็กซานเดอร์ และอาจารย์แคโรลีน ส่งให้ที่มือ ซึ่งตอนที่เรียนเป็นการจับคู่บำบัด และเกิดความอัศจรรย์ หลังจากที่บำบัดแล้ว อาการที่เป็นอยู่ หายเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นความอัศจรรย์ ประหลาดใจ และรู้สึกมีพลัง กระปรี้กระเปร่า มีความสดชื่น
ชีวิตเหมือนแบตเสื่อม
ชีวิตที่น่าเบื่อ รู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยง่าย บางครั้งเลี้ยงลูกหลับไปไม่รู้ตัว เหมือนกับคนขี้เกียจ ทั้งที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย พี่สะใภ้บอกให้ไปรักษาตนเองให้แข็งแรง ช่วงเวลานั้นไม่รู้ว่าจะรักษาอย่างไร เพราะไม่มีอาการของงูสวัด ฉีดยาก็ไม่ได้ เพราะป่วยส่งผลให้กระทบกับชีวิตประจำวัน ทั้งการดูแลแม่ เลี้ยงลูก ทำงานบ้าน ชีวิตต้องใช้แรงพยายามเป็นอย่างมาก ชีวิตเหนื่อยเหมือนแบตเสื่อม ร่างกายป่วย จิตใจก็ท้อ ส่งผลให้มีพฤติกรรมหงุดหงิด เครียด ความสุขไม่มี ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเราเท่านั้นที่แบกรับภาระความกดดัน ส่งผลไปถึงคนรอบข้าง แม่ สามี และลูก
ในขณะนั้นอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง อยากแข็งแรง มีสุขภาพที่ดี อยากมีความสุขกับครอบครัวและคนที่เรารัก ทำให้ศึกษาเรียนรู้พลังกายทิพย์ ซึ่งเป็นวิทยาศาสตร์ทางจิตที่ทำให้เข้าใจคำว่า “จักระ” เหมือนกับแพทย์ทางเลือกที่สอนให้เราเรียนรู้พลังจิตบำบัดโรค เป็นการพัฒนาองค์ความรู้ ทำให้สุขภาพแข็งแรง เพราะการทำสมาธิบำบัด ตื่นตอนตีห้าฟังซีดีพลังสมาธิบำบัดเพื่อความเบิกบานแห่งชีวิต ทำให้สงบ ควบคุมอารมณ์ได้ดี และส่งผลได้ช่วยให้คนในบ้านได้รับพลังงานไปด้วย เพราะเมื่อเราเป็นเครื่องมือ พลังงานจะผ่านที่ตัวเราและออกมาที่มือและสายตา เมื่อสุขภาพกายแข็งแรง จิตใจก็แกร่ง รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า มีความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ทำให้ค้นพบศักยภาพใหม่ของตัวเอง และทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวันอย่างมีความสุข คนที่อยู่รอบตัวเราก็มีความสุข จากนั้นก็นำไปแชร์ใหคนที่สนใจ ทำให้มีพลังทำกิจกรรมต่างๆ เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ได้พัฒนาตนเอง โดยการศึกษาศาตร์ต่างๆ เพิ่มขึ้นเพื่อบำบัดช่วยเหลือผู้อื่น ทั้งเป็นวิทยากร ให้ความรู้ตามเรือนจำ ทัณฑสถานหญิงและชายทั่วประเทศ
คุณแม่ปวดท้อง กระเพาะทะลุ Spititual Healing พลังจิตรักษาได้
คุณเบิร์ดเล่าว่า คุณว่าเป็นเบาหวาน ความดัน หัวใจ และหัวเข่าเสื่อม มาวันหนึ่งคุณแม่ปวดท้องหนักมาก ต้องพาไปโรงพยาบาลด่วน คุณหมอตรวจพบกระเพาะทะลุ ต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน แต่หลังจากการผ่าตัด คุณแม่มีอาการแพ้ขั้นรุนแรง ต้องนอนพักในห้องไอซียู กว่า 20 วัน ขณะที่นอนพักมีอาการแทรกซ้อน ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมปอด ติดเชื้อในกระแสเลือดและน้ำท่วมหัวใจ เราต้องใช้ทุกวิชาที่เรียนมาเพื่อบำบัดคุณแม่ และการใช้พลังจิต Spititual Healing ของอเล็กซานเดอร์ และแคโรลีน ทอสการ์ ช่วยได้จนเป็นปกติ
นับว่าเป็นความโชคดีของคนไทยที่ อเล็กซานเดอร์และแคโรลีน ทอสการ์ ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ด้านพลังจิตแห่งการบำบัดเดินทางมาเมืองไทยทุกปี เปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่สอง เพื่อมาถ่ายทอดพลังบำบัดให้แพทย์และพยาบาลทั่วประเทศ โดยทำงานร่วมกับนายแพทย์จักรกฤษณ์ ภูมิสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาการแพทย์ทางเลือก (ประเทศไทย)