ท่านใดที่เป็นเพื่อนผมทางเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์คงสังเกตเห็นว่า ผมชอบเอารูปคุณแม่มาโพสต์ อยู่บ่อยๆ และเรียกเรตติ้งได้ดีมากทุกครั้ง มีคนกด ‘like’ เกินร้อย แถมคอมเมนต์กันยาวเหยียด เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมได้เปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นรูปคุณแม่ตอนอายุ 23 ปีซึ่งกำลังตั้งท้องผมอยู่กรุงเวียงจันทน์ ส่งผลให้เกิดกระแสความสนใจมากมายในโลกออนไลน์ และที่น่ายินดีคือ มีเพื่อนๆ หลายคนเปลี่ยนเป็นรูปคุณแม่มาแบ่งปันกัน มาบอกเล่าความรู้สึกที่ทุกคนมีต่อคุณแม่ ลองเข้าไปอ่านในหน้าแฟนเพจ www.facebook.com/danai.chanchaochai ดูนะครับ
สำหรับผม ทุกวันคือวันแม่ เพราะหากไม่มีแม่ คงไม่มีเราในวันนี้ ผมจึงให้ความสำคัญกับคุณแม่มาก รักมาก โทรศัพท์คุยกันทุกวัน ตอนกลางคืนก็โทรฯ ไปส่งคุณแม่เข้านอน เสาร์อาทิตย์ก็จะพาท่านไปสถานที่ต่างๆ ตามที่ท่านอยากไป
ผู้หญิงคนเดียวที่อยากกอดตลอดชีวิต ก็คือ ‘แม่’ และได้บอกท่านบ่อยๆ ว่าภูมิใจที่สุดในชีวิตนี้ที่ได้เกิดมาเป็นลูกพ่อและแม่ ผมมีเรื่องเล่ามาฝาก เป็นเรื่องราวของแม่แก่ๆ ที่อยากจะกินแอปเปิ้ล เนื่องจากสมัยก่อนแอปเปิ้ลมีราคาแพงมาก คนรวยเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ซื้อกินได้
แม่อยากจะกินแอปเปิ้ลกับเขาดูบ้าง ว่าจะอร่อยลิ้นเพียงใด จึงให้เงินที่บรรจงเก็บออมมานานให้ลูกสาวไปสิบบาท วานให้เข้าไปตลาดซื้อหามาให้กินสักลูก ลูกสาวก็ไปที่ร้านค้า เห็นราคาแอปเปิ้ลเข้าก็ซื้อไม่ลง เหลือบไปเห็นฝรั่งที่มีราคาถูกกว่า ซื้อสิบบาทได้ตั้งห้าลูก คิดว่าซื้อไปแม่น่าจะชอบใจเป็นแน่
เสร็จสรรพ แม่ค้าก็บรรจงห่อฝรั่งห้าลูกให้ลูกสาวนำไปฝากแม่ เมื่อกลับถึงบ้านด้วยความดีใจที่จะได้กินแอปเปิ้ล ผู้เป็นแม่เปิดห่อกระดาษออกถึงกับผงะ อ้าว ไม่ใช่แอปเปิ้ลนี่นา ลูกสาวจึงบอกออกไปว่า อย่ากินเลยแม่แอปเปิ้ลมันของแพง ลูกซื้อไม่ลง กินฝรั่งดีกว่า ห้าลูกสิบบาทกินกันได้ทั้งบ้าน
ถึงจะผิดหวังเสียใจที่ไม่ได้กินแอปเปิ้ล แต่แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรลูกสาว ได้แต่เก็บความน้อยใจเอาไว้ในใจ จนวันหนึ่ง เมื่อถึงวันสิ้นลมของแม่ ลูกสาวจัดงานศพให้แม่ใหญ่โต ก็นึกขึ้นได้ว่าแม่อยากกินแอปเปิ้ล จึงจัดแจงซื้อหามาจัดใส่สำรับ อุทิศส่วนกุศลไปให้แม่
ลูกสาวสำนึกได้ก็ร้องไห้ฟูมฟาย เคาะฝาโลงเรียกแม่จ๋าๆ แม่ลุกขึ้นมากินแอปเปิ้ลสิจ๊ะ ลูกซื้อหามาให้แล้ว มากมายก่ายกอง กินกันได้ทั้งบ้าน อนิจจา แม่จะลุกขึ้นมาก็หาไม่ …
นิทานเรื่องนี้ก็จบเพียงเท่านี้ครับ อ่านแล้วได้ข้อคิดอย่างไรกันบ้างครับ
อย่าลืมนะครับ วันแม่ไม่ได้มีแค่วันเดียว ขอให้รักแม่ ตอบแทนบุญคุณท่านทุกวันนะครับ
ปล. วันแม่ 12 สิงหาคมปีนี้ ผมควงคุณแม่ไปเที่ยวอุบลฯ กราบนิมนต์พระมหาสมปอง ตาลปุตโต แสดงธรรมหัวข้อ ‘ยิ้มเพื่อแม่ โลกแตกก็ยอม’ ที่อุ่นเรือนเรสซิเดนส์แอนด์เรสเตอรองท์ เวลา 14:00 – 16:00 น. โทร. (045) 301191 และวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม เวลา 14:00 – 15:00 น ผมจะไปแจกลายเซ็นที่บูธดีเอ็มจี ชั้น 4 ศูนย์การค้าซิตี้มอลล์ ในงานสัปดาห์หนังสือและการเรียนรู้ อุบลราชธานี ครั้งที่ 3 ใครอยู่เมืองดอกบัว เชิญแวะมาทักทายกันนะครับ.
อาจารย์เป็นอภิชาตบุตรค่ะ..ชื่นชมค่ะ..คุณแม่อาจารย์เป็นผู้มีบุญค่ะ
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆๆคะคุณดนัย
ขอชื่นชมคุณดนัยที่นำกระแสการ Post รูปคุณแม่บนหน้า FB
เรื่องที่คุณดนัยนำมาเล่า ดิฉันได้ฟังและได้ดูละครเวทีประกอบเรื่องนี้
ในคอนเสิร์ต จีวันแบนด์ โลกรอดเพราะกตัญญูเมื่อวันที่ 29พ.ค.54
รู้สึกสะเทือนใจ และตั้งใจว่าจะพยายามไม่ขัดใจคุณแม่ จะพยายามทำ
สิ่งที่ท่านต้องการ ท่านจะได้มีความสุข เพราะเมื่อท่านมีความสุข เราก็
มีความสุขด้วย คุณแม่อยู่ต่างจังหวัด ดิฉันก็กอดท่านทุกครั้งที่ไปหาท่าน
และโทร.หาท่านทุกวันเช่นเดียวกันค่ะ ทั้งๆที่เวลาคุย ก็คุยด้วย
คำถามซ้ำๆ กัน เช่นคุณแม่ทานข้าวหรือยัง ทานอะไร อร่อยไหม
ปวดหัว ปวดท้องไหม คำตอบท่าน ส่วนใหญ่ก็เหมือนๆเดิม แต่เรามี
ความสุขเมื่อได้ยินเสียงท่าน รับรู้ความสุขท่านจากเสียงที่ผ่านทางโทรศัพท์
ผู้ที่กตัญญูกตเวทีต่อบุพการี….ย่อมเป็นผู้ที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองค่ะ
เพราะท่านเป็นยิ่งกว่าพระอรหันต์…..