ยังมีมหาเศรษฐีผู้หนึ่งนิมนต์พระอาจารย์เซนเซียนหยา(仙崖)มาที่บ้าน ทั้งยังขอให้เขียนคำอวยพรเพื่อเป็นสิริมงคลส่งให้คนใน วงศ์ตระกูลร่ำรวยเงินทอง เจริญรุ่งเรืองจากรุ่นสู่รุ่น ไม่มีวันอับจน อาจารย์เซนเซียนหยารับปาก พลางกางแผ่นกระดาษออกจรด พู่กันเขียนลงไปเพียง 3 คำว่า "บิดาตาย บุตรตาย หลานตาย"
เมื่อมหาเศรษฐีอ่านข้อความทั้งหมด ก็บันดาลโทสะเป็นอันมาก กล่าวตำหนิอาจารย์เซนว่า "ข้าเพียงให้ท่านมาเขียนคำอวยพรเพื่อให้เป็นสิริมงคลกับครอบครัวของข้า เหตุใดท่านจึงต้องล้อเล่นรุนแรงเช่นนี้ด้วย?"
"มิได้ล้อเล่น" อาจารย์เซียนหยากล่าวชี้แจง พลางอธิบายว่า "ความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอ ...
รายการชีวิตไม่สิ้นหวัง
Posted On วันจันทร์, พฤษภาคม 9, 2011 By danai. Under สัมภาษณ์รายการทีวี
รายการชีวิตไม่สิ้นหวังกับโครงการดีๆ โครงการทูตแห่งความดีแห่งประเทศไทย
รายการชีวิตไม่สิ้นหวังกับโครงการดีๆ โครงการทูตแห่งความดีแห่งประเทศไทย
รายการโชว์ความดี จากเด็กๆ เยาวชนรุ่นใหม่
ลุกขึ้นมาวาดอนาคตประเทศไทย ด้วยหัวใจใสๆ ของเยาวชน
เพื่อให้เข้าบรรยากาศของไฮคลาสฉบับนี้ที่สัมภาษณ์บุคคลระดับ ‘ลูกผู้บริหาร หลานพ่อค้าวานิช’ จึงควรหยิบยกหัวข้อนี้มาสนทนากันสบายๆ ว่า ในทางธรรมนั้นควรเป็นเศรษฐีหรือไม่ และมีอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าการเป็นมหาเศรษฐีรึเปล่า น่าสนใจทีเดียว!
ย้อนไปในสมัยพุทธกาล มีฆราวาสผู้ร่ำรวยระดับมหาเศรษฐีอยู่หลายคน และบรรลุธรรมขั้นพระโสดาบัน แต่ที่เป็นเอกและได้รับการยกย่องอย่างสูง คือ อนาถบิณฑิกเศรษฐี ผู้เกิดในตระกูลมหาเศรษฐีในเมืองสาวัตถี มีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาล เดิมชื่อ ‘สุทัตตะ’ แต่ด้วยความเป็นคนใจบุญสุนทาน ตั้งโรงทานหน้าบ้านแจกอาหารแก่คนยากจนทุกวัน ประชาชนจึงเรียกท่านว่า ‘อนาถบิณฑิกะ’ หมายความว่า ‘ผู้มีก้อนข้าวเพื่อคนอนาถา’ และเรียกกันมาจนลืมชื่อเดิมไปเลย
ครั้งแรกที่อนาถบิณฑิกเศรษฐีได้ยินคำว่า ‘พระพุทธเจ้า’ จากเพื่อนมหาเศรษฐีเมืองราชคฤห์ ถึงกับต้องทวนคำว่า ‘พระพุทธเจ้า’ ถึงสามครั้ง และเกิดปีติศรัทธาอย่างแรงกล้า ...
ได้มีโอกาสประสบพบเจอหลายคนที่หลงคิดไปว่า หัวใจเราคือถังขยะ เพราะชอบหมักหมม สะสมสารพัดเรื่องราวแย่ๆ เอาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ ผมจึงคิดว่าข้อแนะนำในการแยกขยะออกจากหัวใจน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆ คน บางทีเป็นเพราะเราไม่ค่อยรู้ตัวหรอกว่าเราแอบทิ้งขยะลงไปในใจของเราเอง หรือมีใครทิ้งขยะลงมาในหัวใจของเราบ้าง ถ้าไม่หมั่นสำรวจ เผลอๆ ขยะอาจท่วมล้นหัวใจเราไปแล้วก็ได้ น่ากลัวจริงๆ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย!
ลองมาสำรวจว่าอะไรบ้าง ที่เป็นขยะหัวใจ
แต่ก่อนจะสำรวจ ‘ประเภทขยะ’ ที่อยู่ในหัวใจเรา ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ได้กรุณาส่งอีเมล์ฉบับนี้มาให้ ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้เขียน แต่อ่านแล้วอดไม่ได้ที่จะนำมาเผยแพร่ต่อ ก็ต้องขอขอบคุณเอาไว้ ณ ที่นี้
เอาล่ะครับ ขยะหัวใจ ได้แก่....
1. ความไม่พอใจ
มีหลายเรื่องในชีวิตที่เราไม่พึงพอใจ ถ้าจะแบ่งให้กว้างที่สุดเพื่อให้เห็นภาพ สิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจมีอยู่ ...
รายการสุริวิภา 27-04-54
Posted On วันพฤหัสบดี, เมษายน 28, 2011 By danai. Under สัมภาษณ์รายการทีวี
โครงการน้ำดี - โครงการทูตความดีแห่งประเทศไทย รายการ D Ambassador ที่กำลังปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความดีไว้ในใจเยาวชนเพื่อกระตุ้นให้เกิดสิ่งดีงามขึ้นในสังคม
ดูรายการสุริวิภาย้อนหลัง 27-04-54 โครงการน้ำดี - โครงการทูตความดีแห่งประเทศไทย รายการ D Ambassador ที่กำลังปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความดีไว้ในใจเยาวชนเพื่อกระตุ้นให้เกิดสิ่งดีงามขึ้นในสังคม
ประวัติโดยย่อ
พระอุปคุตเป็นพระอรหันต์หลังสมัยพุทธกาล ไม่พบประวัติของท่านในพระไตรปิฏก แต่ปรากฏอยู่ในหลักศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช ตามตำนานกล่าวว่า พระเถระอุปคุต เป็นชาวเมืองปาตลีบุตร บิดาท่านเป็นพ่อค้าน้ำหอม พระอุปคุตได้ช่วยดูแลขายเครื่องหอมซึ่งขายดีมาก ต่อมาได้ตัดสินใจบวชตามสัญญาที่พ่อของท่านให้ไว้กับพระสาณวาสีเถระ เมื่อบวชแล้วได้บำเพ็ญเพียรจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ สำเร็จอภิญญาต่างๆ โดยเฉพาะเทศนาของท่านแม้ในวันเดียวกัน ก็พระทำให้พระภิกษุจำนวน 18,000 รูป ได้บรรลุสำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีนาสพ
พระพุทธองค์ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า ต่อไปภายหน้า พระอุปคุตผู้เป็นพุทธสาวกของเรา ตถาคต จะเป็นผู้ทำพุทธกิจต่อจากตถาคตสืบถึง 5,000 พระวัสสา (ปี) พระอุปคุตท่านมีปฎิปทาดำเนินไปในทางสันโดษ มักน้อย นัยว่าท่านเนรมิตเรือนแก้ว ขึ้นในท้องทะเลหลวง( สะดือทะล ) เข้าฌานสมาบัติเสวยวิมุติสุขอยู่ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ ...
เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้มีโอกาสดูละครโทรทัศน์เรื่องหนึ่งซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและกล่าวขวัญถึงของใครหลายคน ตัวเอกมีรูปเป็นทรัพย์ หน้าตาสะสวยโดดเด่น แม้จะมีฐานะไม่ร่ำรวย แต่ก็พอมีพอกิน และที่สำคัญเธอมีแม่ที่รักลูกยิ่งกว่าชีวิต
ปมที่ทำให้เรื่องราวดำเนินไปก็คือ ความคิดของตัวเอกที่ว่าทำไมเธอถึงไม่ร่ำรวย ไม่เกิดมามีหน้ามีตาในวงสังคมชั้นสูงเหมือนคนอื่น พร้อมกับดูถูกในอาชีพของบุพการีผู้ให้กำเนิดซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านและยามธรรมดา การกระทำทุกอย่างจึงถูกผลักดันด้วยความทะยานอยากไม่สิ้นสุด ทำให้จิตใจ “ร้อน” เหมือนมีไฟแผดเผาอยู่ตลอดเวลาและพาลลามไปเผาคนรอบตัว
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของการใช้ชีวิตโดยประมาท ขาด “ธรรมะนำทาง” จนทำให้หลงวนเวียนอยู่ในเขาวงกตแห่งทุกข์ บางคนต้องทนทรมานอยู่อย่างนี้ไปทั้งชีวิตเหมือนเป็นโรคเรื้อรัง ไม่สามารถหาทางออกและค้นพบความสุขอันรื่นรมย์ที่แท้จริงในชีวิตได้
หลายคนอาจบอกว่า คนเราก็เป็นเพียงปุถุชนย่อมต้องมีรักโลภโกรธหลงบ้างเป็นธรรมดา ยังไม่ต้องพูดเรื่องบรรลุธรรมสูงสุดไปถึงขั้นนิพพาน แต่เรามาลองหยุดนิ่งใช้ความคิด ใช้สติ ใช้เหตุผลเป็นเครื่องชี้นำ ในยามที่ตกอยู่ในห้วงความทุกข์ ความเศร้า ความเสียใจกันดูบ้างดีหรือไม่ เพื่อให้ “รู้” เท่าทันการกระทำและอารมณ์ปัจจุบันของตัวเอง ...