บทความศิลาในน้ำเชี่ยวฉบับนี้เขียนระหว่างเดินทางมาพักที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ได้มีโอกาสเดินทางมาที่สหรัฐอเมริกาเพื่อฉลองวันเกิดหลานชายอายุ 13 ปี และมีพิธีใหญ่เรียกว่า Bar Mitzvah ตามแบบยิวหมายถึงการเติบโตจากวัยเด็กเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว ผมรู้สึกชื่นชมชาวยิวที่สามารถรักษาประเพณีแบบนี้สืบทอดกันมาหลายพันปีได้อย่างไม่ตกหล่น ทั้งที่เป็นชนชาติที่ไม่เคยมีผืนแผ่นดินให้อยู่อาศัยหลายสิบปี แถมหลานชายซึ่งเป็นคนอเมริกันยังสามารถอ่านและเข้าใจภาษาฮิบบรู ซึ่งเป็นภาษาโบราณห้าพันปีได้อย่างคล่องแคล่ว ที่สำคัญ สามารถกล่าวสุนทรพจน์ให้คนนับร้อยที่มารวมตัวกันในโบสถ์ได้อย่างน่าประทับใจ
แม่บุญธรรมของผมเล่าว่าได้นำเอาเศษผ้าของยายอายุนับร้อยปี มาใช้ในการตัดผ้าคล้องคอเพื่อให้หลานชายได้ใส่เข้าพิธีสำคัญ ระหว่างที่เล่า แม่ก็น้ำตาคลอด้วยความปลื้มใจว่าได้ทำอะไรให้ยายได้ภาคภูมิใจ หัวใจผมสัมผัสได้ถึงความกตัญญูรู้คุณของทุกชนชาติที่มีอารยธรรม มีความเจริญ ไม่ว่าชาติใด ภาษาใด ล้วนมีความรัก ความกตัญญูต่อบุพการีอย่างไม่ขาดสาย เป็นพลังแห่งชีวิตที่สำคัญยิ่ง
ผมสังเกตภาษาที่คนอเมริกันใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน จะเต็มไปด้วยคำพูดที่ให้กำลังใจ ให้ความรู้สึกดีๆ มีความชื่นชมต่อกัน เป็นการแสดง ‘มุทิตาจิต’ อย่างจริงใจ ไม่ว่าจะเป็นคำขอบคุณ คำว่าภาคภูมิใจ I’m so proud of you หรือ You make me proud. การแสดงความซาบซึ้งเมื่อมีผู้อื่นทำอะไรให้ I really appreciate what you have done. Thank you so much.
คำพูดที่ติดปากคนอเมริกันเสมอ คือ คำว่า Great, Awesome, Wonderful, Fantastic, Brilliant ซึ่งล้วนหมายความว่า ยอดเยี่ยม สุดยอด เจ๋ง เลิศที่สุด เป็นคำที่ผู้พูดก็มีความสุข ผู้ฟังก็มีพลัง เป็นการสร้างความสั่นสะเทือนในใจที่ดี ขนาดคนทำความสะอาดโต๊ะอาหารในสนามบิน พอลูกค้ารับประทานเสร็จแล้วลุกขึ้น เขาจะรีบพูดว่า You have a great day. ขอให้คุณมีวันที่ดีเยี่ยม!
ที่ผมประทับใจมาก คือ การให้เกียรติผู้ทำหน้าที่เสียสละรับใช้ชาติ ใครก็ตามที่เป็นทหาร ไม่ว่าหญิงหรือชาย พนักงานสายการบินจะการประกาศเชิญให้ขึ้นเครื่องบินก่อน พร้อมคำพูดว่าขอบคุณที่บริการรับใช้ชาติของเรา Thank you for the services you have done for our country. จากนั้นผู้โดยสารคนอื่นก็จะปรบมือแสดงความขอบคุณกันเกรียวกราว ในฐานะที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็รู้สึกชื่นชม ขนลุกไปด้วย และอยากเห็นสังคมไทยได้ถวายความเคารพพระสงฆ์ ให้เกียรติทหารหาญและบุคคลที่ทำประโยชน์แก่ประเทศชาติในลักษณะเดียวกันบ้าง โดยไม่ต้องรอให้เสียชีวิตก่อน ควรให้เขาได้รับรู้ถึงคุณค่าสิ่งที่เขาได้กระทำระหว่างมีชีวิตอยู่ จะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจมากมายมหาศาล
และที่ผมต้องขอขอบคุณและชื่นชมเป็นพิเศษ คือ สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครลอสแอนเจลิส โดยท่านกงสุลใหญ่ดำรง ใคร่ครวญ ท่านรองฯ มังกร ประทุมแก้ว และกงสุลคมกฤช จองบุญวัฒนา ที่ได้กรุณาเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ พร้อมเชิญสื่อมวลชนไทยในแอลเอ ร่วมทำข่าวโครงการทูตความดีแห่งประเทศไทย ปี 2 ที่ได้ขยายวงให้เยาวชนไทยในอเมริกาและในต่างประเทศทั่วโลกสามารถเข้าร่วมได้ โดยสื่อมวลชนไทยในสหรัฐฯ ให้ความสนใจและช่วยประชาสัมพันธ์โครงการ D Ambassador กันอย่างกว้างขวาง
ช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ ทางสถานกงสุลใหญ่ฯ จะนำคณะเยาวชนไทย-อเมริกันจากประเทศสหรัฐอเมริกามาเรียนรู้วัฒนธรรมไทยจากหน่วยงานต่างๆ ในกรุงเทพฯ และเข้าเยี่ยมสำนักงานทูตความดีแห่งประเทศไทย เป็นความร่วมมือที่แสดงให้เห็นว่า หน้าที่ของการเป็นคนไทยนั้นสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่มีข้อจำกัด
สำหรับน้องๆ เยาวชนอายุ 15 – 25 ปี หรือคุณครูผู้ปกครองที่สนใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของทูตความดีปี 2 ซึ่งเน้นเรื่องการปลุกจิตสำนึกด้านความซื่อตรง โปร่งใส มีวินัย สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรฯ 02 6102364 หรือ www.do-d-club.com โดยส่งผลงานเป็นวีดีโอคลิปความยาวไม่เกิน 3 นาที ในหัวข้อ ‘ทำไมต้องเลือกคุณเข้ามาแก้ปัญาหาคอรัปชั่น’ ชิงรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษากว่าสามแสนบาท และโอกาสดูงานในต่างประเทศ หมดเขต 15 ตุลาคม ศกนี้
มาช่วยกันสร้างประเทศไทยให้เป็นสังคมแห่งความดีและความชื่นชมกัน.
ป๋าดนัยของแมวเหมียวสุดยอดไปเยยย…^3^
คาดว่าปีนี้คงมีน้องๆ ให้การเข้าร่วมโครงการมากกว่าปีที่แล้ว
—————–
นอกเรื่องแต่มีความเกี่ยวกันนิดหน่อย
วันนี้อ่านบทความธรรมะเกี่ยวกับเรื่องชมสามี อ่านแล้วขำดี
หากผู้หญิงยากเกิดเป็นผู้ชาย ในภพชาติต่อไปนั้น ลูกจะต้องถือศีล ๘ ให้ได้ทุกวันพระอย่างสมํ่าเสมอ และก็ต้องดูแลปรนนิบัติสามีให้ดีประดุจเทวดา แล้วอธิษฐานจิตให้แน่วแน่ก็มีสิทธิ์สัมฤทธิผลได้จ้ะ
ปรนนิบัติสามีประดุจเทวดา คือ เราทำหน้าที่ของเราไม่ให้บกพร่องเลย อะไรที่ไม่ผิดศีลผิดธรรม ไม่ผิดกฎหมายเราก็ทำไปเถิด ปรนนิบัติดูแลอย่าให้ขาดตกบกพร่อง เทวดานี่ เวลาปรารถนาอะไรแค่นึก ๆ คิด ๆ ก็ได้ หรือรำพึงก็ได้ อะไรต่าง ๆ เหล่านี้ ดูแลให้ดี ๆ แต่งตัวสวย ๆ ให้เขาดูแล้วสบายใจ พูดจาเพราะ ๆ ให้เขาฟังแล้วชื่นใจ แล้วชื่นชมเขาบ่อย ๆ ว่า เขาหล่ออย่างนี้ เขาเก่งอย่างนี้ เขาสุดยอดอย่างนี้ เขาเป็นสุดยอดดาร์ลิ้ง ไม่มีใครเสมอเหมือน อะไรก็ว่ากันไป เลือกหาคำอย่าให้ซํ้ากัน วันอาทิตย์ก็ว่าไปประโยคหนึ่ง จันทร์ อังคารไล่เรื่อยไปเลย ความรักมันจะได้เพิ่มพูน
อีกทั้งทำตัวให้หอม ๆ ด้วย เพราะเขามีจมูก เวลาเราเดินผ่าน เขาจะได้ชื่นใจ แล้วก็ทำอาหารอร่อย ๆ ให้เขารับประทาน เพราะเขาต้องรับประทาน ลิ้นจะได้รับรสอย่างนี้ไง ตา หู จมูก ปาก แล้วก็ผัสสะก็เป็นเรื่องของทางโลก ลูกจะเข้าใจได้ดีว่า มนุษย์ชอบผัสสะที่ละเอียดอ่อนนุ่มนวล มีศิลปะอะไรเราก็ไปศึกษาถึงเรื่อง ๕ อย่างนี้แหละ จะได้ชื่อว่า ปรนนิบัติสามีประดุจเทวดา ยิ้มแย้ม เยือกเย็น ยกย่อง ยืดหยุ่น ยินยอมกันบ้าง
นอกจากเขาเห็นหน้าตาเราแล้ว ทั้งบ้านเรือน ทั้งอุปกรณ์ของใช้ต่างๆ ต้องให้สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อยทุกอย่างเลย และเสียงที่สามีจะได้ยินในบ้านต้องดี ๆ เพราะ ๆ นอกเหนือจากเสียงของเราแล้ว เสียงของลูกเรา เสียงสมาชิกในบ้านของเรา แม้เสียงนก เสียงกา ต้องให้เป็นเสียงเพราะ ๆ ถ้าเสียงไม่เพราะอย่าเอามา อย่างนี้เป็นต้น ส่วนกิ่ง ก้าน ใบ ดอก ผล หรือราก ลูกไปเติมเอาก็แล้วกัน นี่ปรนนิบัติสามีประดุจเทวดา อันนี้โดยย่อจ้ะ
ขอยืมคำพูดของอาจารย์มาใช้นะคะ..ภูมิใจในอาจารย์มากค่ะ “ท่านฑูตความดี”