มีหลวงพ่อองค์หนึ่ง มีแต่ความสุข ไม่เคยมีทุกข์…
วันหนึ่ง โยมนิมนต์ไปเทศน์ แต่ไม่มาสักที ท่านบอกว่า
“ไม่มาก็ดีเหมือนกันเนาะ ฉันข้าวเลยดีกว่า”
ฉันได้ไม่กี่คำ โยมก็มารับ กราบขอโทษว่ารถเสีย
หลวงพ่อจึงหยุดฉัน “ก็ดีเนาะ ไปฉันที่งานเนาะ”
ไปสักพักรถก็ดับ คนขับบอก “รถเสียครับ”
หลวงพ่อก็ว่า “ดีเนาะ ได้หยุดพักชมวิวเนาะ”
คนขับทำยังไงเครื่องก็ไม่ติด จึงขอร้องให้หลวงพ่อช่วยเข็นรถ
แม้ท่านจะแก่แล้ว ข้าวก็ฉันไปไม่กี่คำ แต่แทนที่จะบ่น
กลับยิ้มบอกว่า “โอ้ดีเนาะ ได้ออกกำลังเนาะ”
กว่าจะถึงงานก็เลยเที่ยงแล้ว หมดเวลาฉันอาหาร
เป็นอันว่าวันนั้นหลวงพ่ออดข้าวทั้ง 2 มื้อ ขึ้นเทศน์เลย
ท่านบอกว่า “ดีเนาะ มาถึงก็ได้ทำงานเลยเนาะ”
เทศน์จบ มีคนชงกาแฟถวาย แต่เผลอตักเกลือใส่แทนน้ำตาล
ท่านจิบแล้วก็บอกว่า “ดีเนาะ”
ตามธรรมเนียมของผู้ที่ศรัทธาเกจิอาจารย์
เวลาท่านฉันอะไรเหลือ ลูกศิษย์ก็อยากทานต่อ ถือเป็นมงคล
แต่จิบกาแฟนิดเดียวก็พ่นพรวดออกมา
“เค็มปี๋เลยหลวงพ่อ ฉันเข้าไปได้ยังไง !”
“ดีเนาะ ฉันกาแฟหวานๆมานาน เค็มมั่งก็ดีเหมือนกัน”
ไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นแย่แค่ไหน
หลวงพ่อก็มองเห็นแต่แง่ดี จึงไม่มีความทุกข์เลย
เคยมีลูกศิษย์ทำผิด ถูกจับติดคุก ท่านก็ว่า
“ก็ดีเนาะ มันจะได้ศึกษาชีวิต”
วันหนึ่งมีโจรบุกจี้หลวงพ่อบนกุฏิ
“นี่คือการปล้น อย่าได้ขัดขืนนะหลวงพ่อ”
ท่านกลับยิ้มบอกว่า “ปล้นก็ดีเนาะ”
โจรจึงถามว่า “ถูกปล้นทำไมว่าดีล่ะหลวงพ่อ”
หลวงพ่อตอบว่า …
“ทำไมจะไม่ดีล่ะ ก็ข้าต้องทนทุกข์ทรมานเฝ้าไอ้สมบัติ
บ้าๆนี้ตั้งนานแล้ว เอ็งเอาไปเสียให้หมด ข้าจะได้ไม่ต้องเฝ้ามันอีก”
โจรตอบว่า “ไม่ใช่ปล้นอย่างเดียว ฉันต้องฆ่าปิดปากหลวงพ่อด้วย”
หลวงพ่อก็ตอบ “ฆ่าก็ดีเนาะ”
โจรแปลกใจ “ถูกฆ่ามันจะดีได้อย่างไรล่ะหลวงพ่อ”
ท่านตอบ “ข้ามันแก่แล้ว ตายก็ดี จะได้ไม่ทุกข์”
โจรเลยบอกว่า “ไม่ฆ่าแล้ว”
หลวงพ่อก็พูด “ไม่ฆ่าก็ดีเนาะ”
โจรถามอีก “ทำไมฆ่าก็ดี ไม่ฆ่าก็ดีอีก”
ท่านตอบว่า “การฆ่ามันเป็นบาป เอ็งจะต้องใช้เวรทั้งชาติ
นี้และชาติหน้า ตำรวจเขาจะต้องตามจับเอ็งเข้าคุก
หรือไม่ก็ถูกฆ่าตาย ตายแล้วก็ยังตกนรกอีก”
โจรเลยเปลี่ยนใจ “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ปล้นท่านแล้ว”
หลวงพ่อก็ตอบว่า “ไม่ปล้นก็ดีเนาะ”
โจรเลยสำนึกบาปเข้ามอบตัว เมื่อพ้นโทษก็ขอบวชกับหลวงพ่อ
คนจึงให้ฉายาท่านว่า “หลวงพ่อดีเนาะ” มาจนทุกวันนี้
หลวงพ่อดีเนาะ ..
เป็นผู้ที่มองเห็นข้อดีของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับท่าน
มองคนอื่นในแง่ดีเสมอ ไม่เคยว่าหรือจับผิดใคร
เจอปัญหาอะไรๆ ก็พูดว่า “ดีเนาะ”
ท่านได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์ เป็น
“พระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที”
ซึ่งแปลว่า…ผู้เปล่งอุทานเป็นธรรมะ
วัดมัชฌิมาวาส ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
อายุ 98 ปี (พ.ศ.2415 – 2513)
?”เนาะ” มั้ง(monk)?
? ด้วยเหตุอภินิหาร หรือด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ดีเนาะ ก็ไม่อาจทราบได้ ทหารอเมริกันคนหนึ่งออกทำการลาดตระเวนไปในพื้นที่ (ในสงครามเวียดนาม) โดยใช้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เป็นพาหนะ และเครื่องบินลำดังกล่าวถูกฝ่ายตรงข้ามยิงตก ทหารหน่วยลาดตระเวนดังกล่าวเสียชีวิตเกือบหมด รวมทั้งนักบินประจำเครื่องด้วย
ส่วนทหารอเมริกันที่ห้อยเหรียญหลวงปู่ดีเนาะ เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต เมื่อได้รับการรักษาตัวจนหายเป็นปกติดีแล้ว และได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับมาพักผ่อนในประเทศไทย
จึงได้พาพรรคพวกที่เป็นทหารด้วยกันมาประเทศไทย (ด้วยความเชื่อว่าที่ตนรอดตายในครั้งนั้น เพราะเหรียญพระที่ตนได้รับจากภรรยาคนไทยอย่างแน่นอน) จึงได้ไปถามกับเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่พักว่า
“ดู ยู โน เนาะ มั้ง อิน อุดร ทาวน์?”?
“Do you know ‘เนาะ’ monk in Udon town?”
เพิ่มเติม:
(ภาพมงคล) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินมาทรงนมัสการหลวงปู่ดีเนาะ เจ้าอาวาสวัดมัชณิมาวาส จ.อุดรธานี ท่านเป็นเจ้าอาวาสถึง 5 แผ่นดิน (5 รัชกาล) ตั้งแต่ พ.ศ. 2451-2513
หลวงปู่เป็นผู้มีอุปการคุณต่อโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเกิดอะไรร้ายหรือดี ท่านก็จะชอบพูดเสมอๆว่า “ดีเนาะ”
พระเทพวิสุทธาจารย์ (หลวงปู่ดีเนาะ)
วัดมัชฌิมาวาส ต.หมากแข้ง จ.อุดรธานี
Cr.SaRan WiKi