ยังมีมหาเศรษฐีผู้หนึ่งนิมนต์พระอาจารย์เซนเซียนหยา(仙崖)มาที่บ้าน ทั้งยังขอให้เขียนคำอวยพรเพื่อเป็นสิริมงคลส่งให้คนใน วงศ์ตระกูลร่ำรวยเงินทอง เจริญรุ่งเรืองจากรุ่นสู่รุ่น ไม่มีวันอับจน อาจารย์เซนเซียนหยารับปาก พลางกางแผ่นกระดาษออกจรด พู่กันเขียนลงไปเพียง 3 คำว่า “บิดาตาย บุตรตาย หลานตาย”
เมื่อมหาเศรษฐีอ่านข้อความทั้งหมด ก็บันดาลโทสะเป็นอันมาก กล่าวตำหนิอาจารย์เซนว่า “ข้าเพียงให้ท่านมาเขียนคำอวยพรเพื่อให้เป็นสิริมงคลกับครอบครัวของข้า เหตุใดท่านจึงต้องล้อเล่นรุนแรงเช่นนี้ด้วย?”
“มิได้ล้อเล่น” อาจารย์เซียนหยากล่าวชี้แจง พลางอธิบายว่า “ความตายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอ สมมติว่าลูกชายของท่านสิ้น ชีวิตก่อนหน้าท่าน ท่านย่อมต้องทุกข์ทรมานยิ่งนัก และถ้าหากหลานชายของท่านเสียชีวิตก่อนบิดาของเขา ทั้งท่านและบุตรชายของท่านย่อมต้องยิ่งทุกข์ทรมานมากขึ้นอีกเท่าทวี แต่หากว่าครอบครัวของท่านล้วนสิ้นอายุขัยไปตามธรรมชาติ จากรุ่นสู่รุ่นตามลำดับตามที่ข้าได้เขียนเอาไว้ ในความคิดของข้าจึงค่อยถือเป็นความสุขความเจริญ เป็นสิริมงคลต่อครอบครัว”
“ความตาย” ไม่น่ากลัว ความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นสัจธรรมของชีวิต แม้สะสมทรัพย์สมบัตินอกกายมากมาย แต่สุดท้ายมิอาจนำติดตัวไป จงหมั่นเจริญมรณานุสติ ใช้ชีวิตดำรงตนอยู่ในความไม่ประมาท
ขอบคุณค่ะที่แบ่งปันเรื่องนี้มาให้ ชอบมาก ช่วยเตือนตัวเองว่านี่คือสัจจธรรมจริง ๆ ขออนุญาตแบ่งปันเรื่องนี้ให้เพื่อน ๆ นะคะ