หมูหวานชวนชิม: แกงนพเก้า

หมูหวานชวนชิม แกงนพเก้า ดนัย จันทร์เจ้าฉาย

เอ่ยถึงแกงนพเก้า  บางคนอาจจะไม่รู้จัก  บางคนอาจจะแค่เคยได้ยินตามร้านอาหารทั่วๆ ไป แต่ไม่มีแกงนพเก้าขายนอกจากทำรับประทานเองในบ้านเท่านั้น  และต้องเป็นคนรุ่นเก่าเท่านั้นที่จะทำให้ลูกหลานรับประทานกัน  เพราะแกงนพเก้าเป็นแกงโบราณภาคกลาง  รสชาติคล้ายแกงส้ม 3 รส ใส่เครื่องแกงสด และหน้าสมุนไพรอย่างข่า  ตะไคร้  กระชาย  วันนี้ คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย  เขาไม่ได้มาแกงให้ลูกหลาน  ทว่ามีคุณแม่นิตยา  มาช่วยแกง  เพื่อที่หมูหวานจะได้ชิมฝีมือของแท้  จากรสมือแม่คุณดนัยยังไงล่ะ

คุณดนัย เป็นคนที่ดูแลสุขภาพ ทั้งกายและใจ  อย่างสม่ำเสมอ  แม้ว่าชีวิตประจำวันจะทำงานหลายอย่าง ชนิดยุ่งอยู่ตัวมาตลอด  ทั้งบริษัทประชาสัมพันธ์ DC มีสำนักพิมพ์ DMG พิมพ์หนังสือธรรมะ  หนังสือพระราชประวัติฯ จัดรายการวิทยุ  เขียนคอลัมน์ ฯลฯ  เจ้าตัวบอกว่า “ช่วงหลังมีสำนักงานทูตความดีแห่งประเทศไทย  ก่อตั้งมาเพื่อต้องการปลุกพลังคนไทย  เพราะเราเชื่อว่าคนไทยดีทุกคน  และควรได้รับโอกาสเท่าเทียมกันทุกคน  ล่าสุดมี มูลนิธิธรรมดี ตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์  และผลประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ ตั้งมาได้ปีกว่าๆ แล้ว”

ล่าสุดเขาทำรายการ ‘ธรรมดีที่พ่อทำ’ ปลุกพลังคนไทยที่ในหัวใจมีพระเจ้าอยู่หัว  ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์  ทางช่อง 5  เวลา 15.45 น. มีนักแสดงดังๆ เช่น โก๊ะตี๋, โดม-ปกรณ์  ลัม, อ้น-ศราวุธ มาตรทอง ฯลฯ มาพูดถึงแรงบันดาลใจจากในหลวง  แล้วนำมาใช้กับชีวิตจริงๆ คุณดนัย บอกว่า “เป็นรายการรักพ่อภาคปฏิบัติ  เราต้องการจะก้าวข้ามว่ารักแล้วไม่ต้องลงมือทำ  ไม่เอาแล้ว  เหมือนเรารักใครสักคน  เขียนจดหมายรักถึงเขาแล้วไม่ติดแสตมป์  ไม่ส่งจดหมาย  มันไม่มีประโยชน์  สมัยนี้ ถ้าไม่มีอะไรจะบอกก็รีบบอกซะเลย เพราะว่าชาติหน้าอาจจะไม่ได้เจอกัน รายการนี้ดูย้อนหลังได้ที่ www.thailoveking.com หรือเข้าไปกด Like กดแชร์ที่เฟซบุ๊ค DoGoodforking หรือธรรมดีที่พ่อทำ”

แม้ทำงานมากมายแต่ก็มีเวลาสำหรับตัวเอง มีเวลาสื่อสารกับหัวใจตัวเอง  นั่งสมาธิ  สวดมนต์  เดินจงกรม  อย่างต่ำวันละ  1-3 ชั่วโมง เวลานอนหลับก็หลับสนิทอย่างมีคุณภาพ  ในภาวะฉุกเฉินนอนแค่ 40 นาที ก็ยังเพียงพอ ทำงานมาเกือบ 50 ปี ไม่เคยป่วยเลยแม้แต่ 1 วัน

 
“ในเรื่องอาหารการกินก็ค่อนข้างเลือกบ้าง  ทานของที่มีประโยชน์  ตื่นเช้ามาทานฟรุตสลัดหลายๆ สี ใส่โยเกิร์ตลงไป  มีลูกเกด  มีกล้วย  ตอนเที่ยงจะทานเยอะมาก  หลังเที่ยงจะไม่ทานอะไรแล้ว  เพราะการหาอาหารแต่ละมื้อมันเป็นภาระ  มื้อเย็นถ้าทานมากจะแน่นอึดอัดไปหมด  ผมเคยทานมังสวิรัส 4 ปี ช่วงนั้นสุขภาพดีมาก ไปตรวจสุขภาพหมอยังชม  ต่อมาก็รู้สึกละอายใจ เวลาไปไหน เพื่อนก็บอกว่าท่านเทพมาแล้ว ก็เลยหันกลับมาทานเนื้อสัตว์ แต่ก็ไม่ทานสัตว์ใหญ่อย่างเนื้อวัว”

 
ส่วนฝีมือด้านทำอาหาร  คุณพ่อกับคุณแม่ถือเป็นสุดยอดฝีมือ  เป็นเจ้าของสุดยอดฝีมือ  เป็นเจ้าของสูตรอาหาร ชื่อ เหลาในบ้านเรา  วันนี้ชวนคุณแม่มาช่วยปรุงแกงนพเก้าที่หายาก เป็นแกงภาคกลางสมัยกรุงศรีอยุธยา  ก่อนกรุงแตก เห็นได้จากวรรณกรรมเรื่องสายโลหิตของ โสภาค  สุวรรณ

 
ชมภาพได้ที่  www.bankokbiznews.com และฟังเสียงได้ที่ FM102 เวลา 05.00 – 06.50 และ FM 90.5 เวลา 14.00 – 15.00 น. วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม 2555

แกงนพเก้า (สำหรับ 12 ที่)

ส่วนผสม :                                                                                    

วิธีทำ :
1. หั่นเครื่องแกง ตำให้เข้ากันกับกระชาย นำปลาร้าต้มให้ละลาย กรอกไว้ นำกุ้งต้มแล้วแกะเปลือก ตำให้แหลก หั่นหน่อไม้แฉลบให้สวย ต้มน้ำทิ้งเสียก่อน หั่นผักทั้งหมดล้างน้ำเตรียมไว้
 

2. นำเครื่องแกงใส่น้ำพอประมาณ ตั้งไฟเดือดแล้วใส่น้ำปลาร้าที่กรอกไว้ แล้วใส่กุ้งที่ตำแล้วใส่ลงในหม้อ ใส่น้ำปลา น้ำมะขาม ชิมดูให้ได้รสเค็ม เปรี้ยว ใส่น้ำตาลนิดหน่อย เสร็จแล้วใส่ยอดฟักทอง ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว ชิมดูให้ได้รสดีแล้วก็ใส่ยอดชะอม กับใบแมงลัก
 

3. ยกลงตักใส่ชามเสิร์ฟร้อนๆ กับข้าวสวยอย่างดี

 
หมายเหตุ : ปลาร้า ต้องตั้งน้ำให้เดือดก่อน แล้วค่อยใส่ปลาร้าลงไปแล้วใส่ตะไคร้ กระชายทุบ กับใบมะกรูดลงไปเพื่อดับกลิ่นคาว ถ้าใส่ปลาดุกก็ให้ต้มในน้ำปลาร้าพร้อมกัน แล้วจึงนำมาแกะเอาแต่เนื้อตำพอแหลก                                                                                  
 
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (ดูหน้าข่าวเต็มที่นี่)