เสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของผู้บริหารร่วม 400 คนในห้องบอลรูม โรงแรมเรเนอซองส์เมื่อคืนวันก่อน เป็นบรรยากาศในงานดินเนอร์ทอล์คโดย ดร. เมล กิลล์ ผู้เขียนหนังสือและผู้กำกับภาพยนตร์ ‘สุดยอดเดอะซีเคร็ต’ ที่เดินทางมาบรรยายครั้งแรกในเมืองไทย เพื่อเปิดตัวหนังสือที่กำลังติดอันดับขายดีภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากวางแผง
ความน่ารักของ ดร. เมล กิลล์และพลังที่มีอย่างมหาศาล ทำให้เรามองแทบไม่เห็นเลยว่าเขาเป็นคนที่มีแขนขวาเพียงข้างเดียวเท่านั้น เนื่องจากแขนซ้ายได้ถูกตัดออกไปเมื่อสี่สิบปีก่อนจากอุบัติเหตุตกเขาในมาเลเซีย และแพทย์ได้ประกาศว่าเขาเสียชีวิตแล้วในห้องผ่าตัดเป็นระยะเวลา 19 นาที แต่ปาฏิหาริย์มีจริง ดร. เมล กิลล์ฟื้นกลับมาใหม่ พร้อมมุมมองชีวิตใหม่ๆ หลังจากที่จิตได้ทิ้งร่างและไปสัมผัสกับโลกอีกมิติหนึ่ง จึงทำให้เขาเชื่อสนิทใจว่า โลกใบนี้ไม่ได้มีเพียงสิ่งที่เรามองเห็นและสัมผัสได้เท่านั้น แต่ยังมีโลกในมิติอื่นๆ ที่ซ้อนกันอยู่ เพียงแต่เรามองไม่เห็นเท่านั้น!
จึงเป็นที่มาของหนังสือและภาพยนตร์ ‘สุดยอดเดอะซีเคร็ต’ ที่กำลังฮือฮาอยู่ในขณะนี้ เพราะเป็นครั้งแรกที่เปิดเผยกฏจักรวาล 7 ข้อที่ทำให้ทุกสิ่งเป็นไปได้ ทำให้เราได้พบความมหัศจรรย์ของชีวิต โดยมีกฏแห่งแรงดึงดูดเป็นส่วนหนึ่งในกฏทั้ง 7 ข้อ ทั้งหมดนี้ล้วนสอดคล้องกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง
ในงานดินเนอร์ทอล์ค ดร. เมล กิลล์ได้เล่าเรื่องขำๆ หลายเรื่อง เหมือนที่เขาเขียนในหนังสือ ที่เรียกเสียงฮาได้มากเป็นเรื่องเกี่ยวกับสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ทะเลากัน จะเอาชนะกันให้ได้ว่าตนเป็นฝ่ายถูก ปรากฏว่ามีพระสงฆ์เดินผ่านมา ภรรยาไวกว่าจึงวิ่งไปถามว่าใครเป็นฝ่ายถูกหลังจากได้อธิบายเหตุผลของตนเองแล้ว พระได้ตอบว่า ‘ถูกต้องแล้วโยม’
ภรรยาดีใจมาก วิ่งกลับไปเยาะเย้ยสามีว่าตนเป็นฝ่ายถูก สามีจึงวิ่งไปตามพระที่กำลังเดินต่อไปเรื่อยๆ แล้วอธิบายถึงเหตุผลของตน จากนั้นถามว่าตนถูกต้องหรือไม่ ปรากฏว่า พระก็ตอบว่า ‘ถูกต้องแล้วโยม’ สามีดีใจมาก วิ่งกลับไปที่บ้านบอกภรรยาว่าตนเป็นฝ่ายถูกเช่นกัน จึงทำให้บรรยากาศการทะเลาะกลับคืนสู่การสมานฉันท์ เพราะต่างฝ่ายต่างชนะ ไม่มีใครเป็นผู้แพ้
ลูกศิษย์วัดที่เดินตามพระอาจารย์มาเรื่อยๆ เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็ไม่สบายใจ สงสัยว่าทำไมพระอาจารย์จึงบอกกับทั้งสามีและภรรยาว่าต่างฝ่ายก็ถูก ที่จริงควรจะมีฝ่ายหนึ่งถูก ฝ่ายหนึ่งผิด จึงจะถูกต้องมิใช่หรือ จึงได้ถามพระอาจารย์ไปด้วยความข้องใจสงสัย
พระอาจารย์ก็ตอบกลับว่า ‘ถูกต้องแล้วโยม’! เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าอัตตาตัวตนของเรานั้นคอยเสี้ยมให้เราเป็นผู้ถูก ผู้ชนะเสมอ จะคิด จะทำ จะพูดอะไร ต้องเป็นฝ่ายถูก ฝ่ายชนะ ไม่ว่าจะกับคนใกล้ตัวในครอบครัว หรือคนไกลตัวก็ตาม แต่หากว่าเรายอมหัดเป็นผู้แพ้เสียบ้าง ก็จะมีคนอยากอยู่ใกล้ อยากแข่งขัน เล่นเกมส์ หรือใช้ชีวิตกับเราด้วย หากเราผูกขาดการเป็นผู้ชนะแต่ฝ่ายเดียว คงไม่มีใครยอมเป็นผู้แพ้มาอยู่ใกล้เป็นแน่แท้
เป็นจิตวิทยาเบื้องต้นที่ทำให้เรามีความสุข และประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต แต่เรามักมองข้ามเรื่องแบบนี้ไป เรื่องราวแบบนี้ ดร. เมล กิลล์ได้นำมาถ่ายทอดอย่างน่าสนใจผสมผสานกับกฏจักรวาล 7 ข้อที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ท่านใดอยากมีกุญแจไขสู่ความมหัศจรรย์แห่งชีวิต ลองไปหาอ่านกันนะครับ รับรองว่าติดใจแน่นอน!