เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผมมีโอกาสพารายการ แจ๋ว ช่อง 3 ไปเที่ยวอุบลฯ แน่นอนครับ
จุดที่พาไปจุดแรก คือ วัดหนองป่าพง ของหลวงปู่ชา
คำสอนหลวงปู่ชาเรียบง่าย น่าปฏิบัติมาก เช่น ท่านให้แก้ไข “ตัวเราเอง” ไม่ใช่ไปแก้ไข “อย่างอื่น”
วัดหนองป่าพง เป็นต้นแบบของวัดป่านับร้อยแห่งทั่วประเทศไทยและทั่วโลก ด้วยวัตรปฏิวัติที่เคร่งครัด
น่าเลื่อมใส ทำให้คนต่างชาติที่ไม่เข้าใจภาษาไทย ภาษาอีสาน ล้วนมีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา
ต่อพระพุทธเจ้าและหลวงพ่อชา จนแผ่ขยายออกไปทั่วโลก
ก่อนเดินทางไป ได้กำชับรายการแจ๋วว่า ขอให้ผู้หญิงใส่ผ้าถุง นุ่งซิ่น รวมทั้งคณะทัวร์ที่ติดตามไปด้วย
ปรากฏว่าทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดี ตั้งแต่ คุณปราย พิธีกรแจ๋ว และทีมโปรดิวเซอร์ และช่างกล้อง
ทุกคนนุ่งผ้าถุงกันหมด แถมบอกว่าติดใจ ต่อไปจะนุ่งซิ่นเข้าวัด แรงบันดาลใจที่อยากเห็นผู้หญิงนุ่งผ้าถุงเข้าวัด
มาจากคุณแม่นี่ละครับ!
ตอนที่ไปกราบนมัสการเจดีย์หลวงปู่ชา คุณแม่หกล้ม เอ็นข้อเท้าขาดแล้ว แต่ยังอดทนเดินจงกรม
และเดินทางต่อไปได้ตลอดทาง อย่างทรหดอดทน
ต่อจากนั้น เราก็ไปวัดดอนธาตุ ข้ามแพยนต์ไปบนเกาะกลางแม่น้ำมูล แต่คืนก่อนที่จะเดินทางมาอุบลฯ
ผมกำลังจะปิดเครื่องคอมพิวเตอร์จะเข้านอน ปรากฏว่า ได้รับอีเมลคำสอนท่านเข้ามา อ่านแล้วขนลุกซู่เลย ..
“การให้ทานอันใดๆ ก็ให้กันมามากแล้ว ย่อมมีอานิสงส์มากเหมือนกัน
แต่ยังสู้ผู้เข้ามาบวชเป็นตาผ้าขาว เป็นแม่ชีแล้วรักษาศีลอุโบสถไม่ได้
มีอานิสงส์มากกว่าให้ทานนั้นเสียอก ถ้าใครอยากได้บุญมากๆ ได้ไปสวรรค์
ไปพระนิพพาน เพื่อการพ้นทุกข์แล้วล่ะก็ ควรบวชเป็นตาผ้าขาว เป็นแม่ชี
รักษาศีลอุโบสถเสียในวันนี้ การปฎิบัติสมาธิภาวนานั้น เป็นชื่อแห่งความเพียร
ที่ผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายในบวรพุทธศาสนา ได้ถือเป็นข้อปฎิบัติชอบเป็นอย่างยิ่ง
ธรรมะที่จะนำมนุษย์ให้พ้นทุกข์นี้ ได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา เท่านั้น”
บนเกาะวัดดอนธาตุ จะมีป้ายธรรมะของครูบาอาจารย์ ติดอยู่บนต้นไม้ใหญ่ที่ร่มรื่น
แต่ป้ายหนึ่งที่ทำให้ขนลุกซู่คือป้ายนี้!
ผมบรรยายอยู่บนรถบัสก่อนข้ามเรือแพมาวัดดอนธาตุ กระตุ้นทุกคนให้เร่งศึกษาและปฏิบัติธรรม
ในเมื่อเราโชคดี เกิดมาทันยุคพระพุทธศาลนาที่ยังคงพระธรรมคำสอน
บริสุทธิ์บริบูรณ์ ยังไม่ถูกบิดเบือน .. ครูบาอาจารย์
เตือนว่าต่อไปจะเป็นยุคมิจฉาทิฐิครองเมือง ถูกผิดไม่รู้
พระธรรมถูกบิดเบือน .. ลงจากรถบัส ข้ามแม่น้ำมูลมา
วัดดอนธาตุ เจอป้ายนี้ติดบนต้นไม้ เป็นคำสอนของ
หลวงตามหาบัว .. ขนลุกซู่เลย!!
ป้ายนี้ก็ชอบครับ .. ถ้าใจของเราเป็นโทษเสียแล้ว
จะไปทำบุญทำทานอะไรก็ไม่ได้ผล
เหมือนกับเรา ขนปุ๋ยไปใส่ต้นไม้ที่ตายแล้ว ..
(ท่านพ่อลี ธัมมธโร)
ธรรมะจากป้ายบนต้นไม้ วัดดอนธาตุ
และได้ไปกราบเจดีย์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ได้เห็นวิถีปฏิบัติที่เรียบง่าย ธรรมชาติของท่าน แล้วเลื่อมใสมาก
ท่านที่ศึกษามาคงทราบว่า หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล เป็นผู้แนะนำให้พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต บวช
และเป็นครูบาอาจารย์ของพระอาจารย์มั่น
ต่อจากนั้น ไปวัดถ้ำคูหาสวรรค์ กราบสังขารหลวงปู่คำคนิง ที่ยังไม่เน่าเปื่อยแม้ จะมรณภาพไปนานแล้ว
คำสอนของหลวงปู่ .. ท่านเน้นสร้างคนมากกว่าสร้างโลก เพราะสร้างโลกเท่าไรก็ไม่เสร็จเสียที …
ที่วัดถ้ำคูหาสวรรค์ เป็นจุดชมวิว แม่น้ำสองสี และมองเห็นฝั่งลาวด้วย

และไฮไลท์ของการเดินทางไปเมืองอุบล คือ อุ่นเรือนเรสซิเด้นส์แอนด์เรสเตอรองท์
โรงแรมบูติคที่มีเพียง 8 ห้อง และอาหารไทยที่อร่อยสุดของจังหวัด!
ตั้งแต่ ไข่เจียวแกงไก่แห้ง วุ้นเส้นแกงลาว เมี่ยงปลาทับทิม แกงส้มใบชะพลู ข้าวต้มทรงฤทธิ์ ไข่กระทะ ก๋วยจั๊บญวน ยำเขมร น้ำพริกพม่า ใครมาอุบลฯ แล้วต้องหาโอกาสแวะมาชิมให้ได้

อีกวันของการเดินทางไปอุบลฯ คือ ไปกราบนมัสการหลวงพ่อเงิน สมัยรัชกาลที่ 3 และหอไตรกลางน้ำ
ซึ่งกรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในอาคารที่สวยที่สุดในประเทศไทย
ขาไปคุณแม่เดินปร๋อ ขากลับต้องนั่งรถเข็นขึ้น Nok Air กลับเร็วกว่ากำหนด พอถึงกรุงเทพฯ คุณหมอใส่เฝือกให้ และห้ามเดินอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์ แต่คุณแม่ก็ไม่ยั่น มีความสุขมาก แอบถอดเฝือก ไปงานรับปริญญาหลานๆ โดนหมอให้ใส่เฝือกต่ออีก 3 สัปดาห์!!