

ปกติการเข้าออกของพนักงานในแต่ละองค์กรเป็นเรื่องปกติ เช่นเดียวกันกับบริษัทฯ ผม มีพนักงานเข้าออกเป็นประจำ แต่ที่ไม่ปกติ คือ การลาออกครั้งหนึ่งของผู้จัดการแผนกหนึ่งเมื่อสิบปีที่แล้ว มีการใช้ภาษาพ่อขุนรามคำแหง แถมยังมีคำหยาบคายออกมาจากสวนสัตว์ดุสิตเต็มจดหมายไปหมด
สาเหตุคือ ผู้จัดการที่ยื่นจดหมายลาออก (ซึ่งพยายามอนุรักษ์ภาษาไทยโบราณ) ไปทะเลาะกับผู้จัดการอีกคน ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเป็นนิสัย เขาจึงเขียนจดหมายด้วยถ้อยคำหยาบคาย รุนแรง ไม่แสดงถึงความเคารพและความเกรงใจใดๆ ต่อองค์กร ต่อผู้บังคับบัญชา (คือผม) ยอมรับว่า เมื่อได้อ่านจดหมายแล้วรู้สึกแย่มากๆ
ตอนนั้น เริ่มฝึกสมาธิบ้างแล้ว จึงหลับตานิ่งๆ ดูลมหายใจเข้าออกสักระยะ ปล่อยวางความคิด แล้วก็เกิดปัญญาบางอย่างว่าเราควรปฏิบัติต่อเขาอย่างไร จึงเรียกเขามาคุยในห้องทำงาน
เขาเดินเข้ามาทำตาขวางๆ กำมือหลวมๆ แบบเตรียมพร้อมว่า หากได้ยินอะไรไม่เข้าหูก็จะลุยทันที ...
รายการสุริวิภา วันที่ 28/05/04
Posted On วันอาทิตย์, พฤษภาคม 30, 2010 By danai. Under สัมภาษณ์รายการทีวี
แขกรับเชิญ คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย คุณสิริลักษณ์ ตันสิริ และคุณทศพร ศรีตุลา
มาร่วมกันแสดงพลังความรักของคนไทย
ให้โลกได้รับรู้ว่าเรารักในหลวงของเราขนาดไหน
และเราจะทำอะไรให้พระองค์ท่านทรงมีความสุขขึ้นได้บ้าง มันน้อยนิดเดียว
เมื่อเทียบกับสิ่งที่พระองค์ได้พระราชทานให้กับเรามาโดยตลอด
หากคุณคิดว่าคุณเป็นคนไทยที่ในหัวใจมีพระเจ้าอยู่หัว
ขอเชิญน้อมถวายดวงใจแด่ในหลวงได้ที่เว็บไซต์
http://www.thailoveking.com/
การเปลี่ยนแปลงตัวเอง นับว่าเป็นสิ่งที่ยากที่สุด ยากกว่าการเปลี่ยนแปลงสิ่งใดๆ
ขอเชิญเยี่ยมชม... บ้าน "สังคมสีขาว" บ้านหลังเล็กๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น ให้เกิดการ "เปลี่ยนแปลงตัวเอง" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ง่ายที่สุด เพียงแค่ให้สัจจะว่า "จะเปลี่ยนตัวเองอย่างไร" เพื่อเป็นการเปลี่ยนแปลงก้าวเล็กๆ ที่จะทำให้เกิดการ "เปลี่ยนแปลงสังคม" เมื่อขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ "สังคมรุ่นใหม่" ที่มีแต่คุณธรรม ความเอาใจใส่ต่อกัน เห็นอกเห็นใจกัน ก็เกิดขึ้น นั่นคือเป้าหมายของเรา เพื่อบ้านของเรา เพื่อบ้านของพ่อ เป็นบ้าน "สีขาว" อย่างแท้จริง
ถึงเวลาหรือยัง... ที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง? หากสังคมจะอยู่รอดได้ขึ้นอยู่กับเรา มาร่วมเป็น ...
เหตุการณ์ในวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้คนไทยและชาวต่างประเทศทั่วโลกตกอยู่ในสภาวะที่เรียกว่าช็อค เพราะไม่เชื่อว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเป็นความจริง ผมนั่งดูข่าวอยู่ที่บ้านรามอินทราด้วยน้ำตาคลอเบ้า เพราะหลายสถานที่ที่ถูกเผามีความผูกพันอยู่ใกล้ตัว ทั้งบ้านและที่ทำงานอยู่ที่ราชประสงค์ และตนเองก็ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการชุมนุมมาตลอด 6 สัปดาห์โดยไม่ได้ย้ายออกไปไหน โชคดีที่บังเอิญมีธุระต้องเดินทางไปบรรยายในต่างจังหวัดหลายแห่งเพื่อปลุกระดมพลังความดี ทำให้ไม่ต้องอยู่ในบริเวณราชประสงค์ช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์ร้ายแรง
หลายคนที่ประสบกับเหตุการณ์ด้วยตนเอง เพราะธุรกิจ ร้านค้า หรือข้าวของถูกเผา รวมถึงคนไทยส่วนใหญ่จะมีความรู้สึกท้อแท้ ห่อเหี่ยว สลดใจ ผมอยากให้กำลังใจว่า อะไรที่ถูกเผาก็เป็นเรื่องนอกตัว ไม่ว่าจะเป็นอาคาร บ้านเรือน ร้านค้า ธนาคาร ศาลากลาง เราสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ให้ดีกว่าเดิมได้ เพราะสิ่งทีไม่ได้ถูกเผาไปด้วย คือ ...
นานๆ ผมถึงจะมีโอกาสได้กลับมานอนที่บ้านรามอินทราซึ่งแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น ชุกชุมไปด้วยนกนานาชนิด กระรอกน้อยและจิ้งหรีดที่ส่งเสียงดัง แถมมีคลองและบึงน้ำอยู่ติดริมหน้าต่างห้องนอน ไม่มีเสียงรบกวนใดๆ นอกจากเสียงนกร้อง เสียงหริ่งหรีดเรไรยามค่ำคืน ต่างจากบรรยากาศย่านราชประสงค์ที่ปกติเป็นทั้งที่ทำงานและที่พักอาศัยตลอดเวลากว่าสิบปี แต่ปัจจุบันได้กลายสภาพเป็นที่ชุมนุมประท้วง มีการขยายเสียงดังสนั่นทั้งกลางวันกลางคืนมาร่วมเดือน และไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงได้อย่างสันติ ทำให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการเด็ดขาดในการตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณโทรศัพท์ เป็นเหตุผลสมควรที่ทำให้ผมกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบในย่านชานเมืองอีกครั้ง
ความจริงต้องขอขอบคุณการชุมนุมที่เกิดขึ้น ทำให้ผมได้มีโอกาสตรวจสอบความหนักแน่น ความเป็นกลางของหัวใจว่าจะสามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขได้อย่างไร ท่ามกลางความวุ่นวาย ความแออัด ทั้งในด้านความเป็นอยู่และความคิดที่กระตุ้นความเกลียดชัง ความแตกแยกในสังคม เป็นที่สังเกตได้ชัดเจนว่า ตราบใดที่เรายังไม่สามารถทำให้คนไทยพึ่งพาตนเอง รู้ซึ้งถึงความหมายในการเป็นที่พึ่งแห่งตนตามคำสอนของพระพุทธองค์ อัตตาหิ อัตโนนาโถ ปรากฏการณ์การประท้วง ...