ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังประสบกับมหาอุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์ในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล นับรวมหลายสิบจังหวัดทั่วประเทศ ก่อให้เกิดปัญหาความทุกข์ร้อนกันถ้วนทั่วทั้งในเรื่องที่พักอาศัย เรือกสวนไร่นาที่ต้องจมอยู่ใต้กระแสน้ำ ปัญหาขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มน้ำใช้ แต่ในอีกด้านหนึ่งของปัญหา เรายังได้เห็นภาพของความมีน้ำใจ ความสมัครสมานสามัคคีที่คนไทยยังคงมีให้กันโดยปราศจากอคติทางความคิด เพื่อร่วมฟันฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
สำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานเผยแพร่ไปทั่วโลกถึงเรื่องความมีจิตอาสาของคนไทยจำนวนมากที่ลุกขึ้นมาช่วยเหลือกันในภาวะคับขัน เรียกได้ว่าคนไทยเป็นชนชาติที่มี Volunteer Spirit สูงยิ่ง ไม่นิ่งดูดาย ใครสามารถทำอะไรก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือ กลายเป็นภาพความประทับใจที่เผยแพร่สู่สายตานานาอารยประเทศ
หนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความสนใจทั้งในระดับประเทศและระดับโลก คือ กิจกรรมการปั้นลูก EM Ball ซึ่งกลายเป็นกระแสทอล์คออฟเดอะทาวน์ กล่าวขานกันไปทั่วในหลากหลายวงการ เพราะในขณะที่มีปรากฏการณ์ทางสังคมเกิดขึ้นจากคนไทยจิตอาสาทั่วประเทศลุกขึ้นมาปั้น EM Ball กันหลายแสนลูก ภายใต้การจัดงาน ‘รวมพลคน Do D ปันน้ำใจ ช่วยภัยน้ำท่วม’ ท่ามกลางกระแสคัดค้านจากนักวิชาการบางท่าน ที่ยังไม่ได้ทำการวิจัยและขาดข้อมูลในการนำไปใช้จริง แต่ออกมาติงว่าหากปั้นลูก EM Ball ไปมากๆ จะยิ่งทำให้น้ำเน่ามากขึ้น และสิ้นเปลืองงบประมาณ โดยไม่เกิดผลใดๆ ขึ้นมา
จุดเริ่มต้นของกระแสการปั้น EM Ball มาจากความพยายามของหลายหน่วยงานทั่วประเทศทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาสังคม ตั้งแต่ บ้านอาสาใจดีของกองทุน สสส. กระทรวงกลาโหม กรมทรัพยากร กองทัพบก กรมควบคุมมลพิษ บ้านอารีย์ สำนักงานทูตความดีแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจย่านราชประสงค์ เกษรกรุ๊ป อมรินทร์พลาซ่า เครือเอไทม์มีเดีย แกรมมี่ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้ระดมคนมาปั้นลูกบอลจุลินทรีย์หลายครั้ง รอบแรกที่หอประชุมพุทธคยา สำนักงานทูตความดีแห่งประเทศไทย ครั้งต่อมาที่อาคารอมรินทร์พลาซ่า และล่าสุด บริเวณ Urban Space ตรงข้ามเซ็นทรัลเวิลด์
ปรากฏการณ์ใหม่ทางสังคมที่เกิดขึ้นคือ มีคนไทยจิตอาสาจำนวนหลายหมื่นคนหลั่งไหลกันมาปั้น EM Ball กลายเป็นม็อบมือถือหอบกะละมัง ถือกระเป๋าแบรนด์เนมแต่งตัวดี แต่มานั่งคลุกทรายผสมแกลบ รำ คลุกเคล้าด้วยกากน้ำตาล น้ำจุลินทรีย์และน้ำสะอาด ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีวัยหลากหลาย ตั้งแต่เด็ก เยาวชน คนทำงาน ไปจนถึงผู้ใหญ่ ต่างพากันมาช่วยปั้นกันอย่างสนุกสนาน
และไม่เพียงแต่ในกรุงเทพฯ เท่านั้นที่มีปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้น ปรากฏว่ากระแสการปั้น EM Ball ได้ขยายออกไปยังคนต่างจังหวัดทั่วประเทศ ที่ระดมสรรพกำลังและคนจิตอาสาเพื่อส่งลูกบอลจุลินทรีย์เข้ามาช่วยบรรเทาปัญหาน้ำเน่าเสียและส่งกลิ่นในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากการให้สิ่งของจำเป็นต่อการยังชีพของผู้ประสบภัย การดูแลสภาพแวดล้อมควบคู่ไปด้วยก็เป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้กับปัญหาน้ำท่วมขังจากการหมักหมมของขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูล ซึ่งเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอนามัย EM Ball หรือลูกบอลจุลินทรีย์จึงเป็นทางออกที่นับว่ามีประสิทธิภาพ หาได้ง่าย และราคาไม่แพงในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้
EM Ball (Effective Microorganism Ball) หรือลูกบอลจุลินทรีย์ขนาดเท่าลูกเทนนิสที่หลายคนคงเคยเห็นหน้าค่าตากันมาบ้างแล้วตามสื่อต่างๆ เป็นก้อนจุลินทรีย์กลุ่มสร้างสรรค์ที่มีคุณสมบัติบำบัดน้ำเสียที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมเป็นพิษได้ เกิดจากการค้นคว้าวิจัยของ ศ.ดร.เทรูโอะ ฮิงะ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญสาขาพืชสวน มหาวิทยาลัยริวกิว เมืองโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น โดยมีส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ดินสมบูรณ์ หรือทรายละเอียด 1 ส่วน รำละเอียด 2 ส่วน รำหยาบ 1 ส่วนครึ่ง กากน้ำตาล และหัวเชื้อจุลินทรีย์ในปริมาณ 50 ซีซีต่อน้ำสะอาด 10 ลิตร
จุลินทรีย์ที่ใช้ในการผลิต EM Ball เป็นจุลินทรีย์ธรรมชาติในกลุ่มสร้างสรรค์ที่ไม่ก่อให้เกิดโรค ผมเรียกว่าเป็นจุลินทรีย์มีคุณธรรมและสร้างสรรค์ มีประโยชน์ต่อมนุษย์ สัตว์และพืช นำไปใช้โดยโยน EM Ball ใส่บ่อบำบัดน้ำเสีย จะช่วยบำบัดน้ำเสียได้ หรือ จุลินทรีย์ 2 ก้อน ต่อการบำบัดน้ำได้ดีที่ 3,000-5,000 ลิตร หรือใช้ช่วยย่อยสลายไขมัน ท่ออุดตัน และ
ช่วยปรับสภาพดินให้เหมาะสมกับการเพาะปลูก
อย่างไรก็ตาม การปั้นเจ้าลูกบอลมหัศจรรย์ขนาดเท่าลูกเทนนิสที่ดูเหมือนง่าย แต่ความจริงแล้วไม่ง่ายเลย ทั้งกระบวนการทำและปริมาณที่ตั้งเป้าไว้ เพราะส่วนประกอบที่จะนำมาผสมเป็น EM Ball ทั้งดิน น้ำหมักชีวภาพ รำข้าว แบบหยาบและละเอียด กากน้ำตาล ห้ามโดนแดดร้อนหรืออยู่ในที่เย็นจัดโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้พระเอกจุลินทรีย์ตายเสียก่อน แถมยังต้องอาศัยระยะเวลาให้เชื้อจุลินทรีย์บ่มตัวเองจนได้ที่ประมาณ 10-15 วัน กว่าจะนำเจ้าบอลมหัศจรรย์ไปใช้งานได้จริง
เรียกว่า ต้องให้ความสำคัญทั้งในกระบวนการปั้น การบ่มเพาะไปจนถึงวิธีการนำไปใช้ให้ถูกต้อง แต่ขอยืนยันครับว่า EM Ball นั้นสัมฤทธิ์ผลแน่นอน เพราะทุกคนที่ลุกขึ้นมาช่วยกันปั้นนั้น ล้วนมี EM เหมือนกัน นั่นคือ Effective Mind หัวใจที่ใส บริสุทธิ์ รู้จริงในสิ่งที่ทำ ย่อมช่วยบำบัดน้ำเสียให้เป็นน้ำใสได้
เรื่องนี้ไม่ให้เชื่อ ไม่ให้คิดเอาเอง ไม่ให้ฟังกันเฉยๆ แต่เชิญชวนให้พิสูจน์ด้วยตัวเองครับ ลองมาศึกษาเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่เรียกว่าจุลินทรีย์มีคุณธรรมสิครับ แล้วจะรู้ว่า เขามีประโยชน์และช่วยรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร ธรรมชาติย่อมบำบัดธรรมชาติได้ดีที่สุด อย่าฝืนธรรมชาติ อย่าต่อสู้กับธรรมชาติ แต่เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติอย่างสมดุลย์ดีกว่าครับ
เพราะที่บอกว่า ‘เอาอยู่ เอาอยู่’ ยังไงๆ ก็ ‘เอาไม่อยู่’ หรอกครับ เราทุกคนเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่อยู่ในธรรมชาติเช่นเดียวกัน
สิ่งใดก็ตามที่เราลงมือทำและทำมันด้วย “ใจ” ผลที่ออกมาทั้งผู้ให้และผู้ที่รับก็ย่อม “สุขใจ” ด้วยกันทั้งนั้น เหมือนการร่วมกันปั้น EM Ball เปรียบเสมือนเอาดวงใจที่บริสุทธิ์หลาย ๆ ดวงมาหลอมรวมกัน จนก่อให้เกิดพลังใจอันยิ่งใหญ่มหาศาลและส่งต่อพลังใจนี้ไปให้ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมให้มีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไปค่ะ
“น้ำท่วม ท่วมแล้วก็ไหลออกไปอย่าไหลกลับมา
แต่น้ำใจ อย่าปล่อยให้มันไหลออกไป มิฉะนั้น มันจะไม่กลับมา”