เคยสังเกตบ้างหรือไม่ว่า บ่อยครั้งสิ่งที่เราอยากได้กลับไม่ได้ แต่สิ่งที่ไม่อยากได้กลับได้มาอย่างง่ายดาย จนต้องหันกลับมาถามตัวเองบ่อยๆ ว่าทำไมโชคชะตาจึงเล่นตลกกับเราแบบนี้ ความจริงแล้วเรื่องความลับเหนือโลกเกี่ยวกับการสร้างความมั่งคั่งนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก เพียงพลิกวิถีความคิดเพียงนิดเดียว โอกาสในการประสบความสำเร็จนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม!
ผมมีโอกาสเรียบเรียงหนังสือ สุดยอดเดอะซีเคร็ต (The Meta Secret) เขียนโดย ดร. เมล กิลล์ ผู้เหลือแขนขวาข้างเดียวจากการตกเขาและมีประสบการณ์ใกล้ตาย นอกจากเกือบเสียชีวิตแล้ว เขายังสูญเสียครอบครัว ธุรกิจ และเพื่อน แต่ปัจจุบัน ดร. เมล กิลล์เป็นหนึ่งในนักจิตวิทยาและนักบรรยายที่ได้การรับฉายาว่า นักพูดพันล้าน แถมยังเป็นที่ปรึกษาให้ซีอีโอขององค์กรยักษ์ใหญ่หลายแห่งทั่วโลก (ฟอร์จูน 500) ทั้งหมดนั้นเกิดจากความจริงที่เขาได้ไปสัมผัสในโลกอีกมิติที่ตัวเองก็ไม่เคยเชื่อมาก่อน และพลังความคิดในศักยภาพตนเองอย่างเหลือล้น
สุดยอดเดอะซีเคร็ต ในเรื่องความมั่งคั่ง ไม่ใช่การพยายามอย่างหนักหรืออยากได้อย่างรุนแรง เราจะบรรลุความมั่งคั่งได้เร็วขึ้นมากหากปล่อยวางความต้องการที่มากเกินไป อย่าตั้งหน้าตั้งตาเพื่อจะบรรลุถึงความสำเร็จและความมั่งคั่งแต่อย่างเดียว เพราะกฎของจักรวาลคือ เมื่อเราปรารถนามันมากและพยายามอย่างเคร่งเครียดเพื่อให้ได้อะไรมาสักอย่าง เท่ากับ เป็นการยอมรับว่า สิ่งนั้นได้ขาดหายไปจากชีวิตเรา
การอยากได้นั้นมีความหมายเดียวกับการขาดแคลน จึงเป็นการส่งสัญญาณออกไปสู่จักรวาลว่า เราอยากได้ เท่ากับดึงเอาความขาดแคลนเข้ามาสู่ตนเอง อาจฟังดูแปลก แต่หากพินิจพิเคราะห์ดีๆ มันเป็นเช่นนั้น เมื่อเราอยากได้ ข้อความที่เราสื่อออกไปย่อมเป็นตรงกันข้าม นั่นคือการตั้งโปรแกรมแง่ลบให้ตัวเองมุ่งไปคว้าสิ่งที่กำลังขาดอยู่
มันเป็นพลังงานลบที่เรากำลังส่งออก ไม่ใช่พลังบวก!
การที่เราจะมีความมั่งคั่งอย่างแท้จริงได้ เราจะต้องรู้สึกดีกับสิ่งที่เราเป็น และรู้สึกดีกับวิธีที่เราติดต่อสัมพันธ์กับคนรอบข้าง รวมไปถึงการบริการหรือผลผลิตที่เราให้แก่โลก เมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็จะเข้าไปมีส่วนร่วมในความอุดมสมบูรณ์ซึ่งมีอยู่รอบตัวในทุกเวลา ทุกอย่างเป็นของเรา เป็นมาตั้งแต่เริ่มแรกและจะเป็นของเราตลอดไป
ดังนั้นที่ถูกต้องแล้ว เราควรเน้นที่ความรู้สึกเมื่อได้สมปรารถนาแล้ว ทำจิตใจให้มีความสุขเหมือนว่าเรา ‘เพียงพอ’ แล้ว มีความร่ำรวยแล้ว เน้นไปที่เรื่องดีๆ เพื่อดึงเอาความมั่งมีเข้ามาสู่ตัวเรา การใช้ความคิด คำพูดและการจินตนาการที่บ่งบอกว่าเราได้มันมาแล้ว และขจัดความคิดเชิงลบที่เป็นความอยากได้ออกไป ซึ่งในประเด็นนี้ แจ็ค แคนฟิลด์ หนึ่งในผู้เขียนหนังสือสุดยอดเดอะซีเคร็ต ได้เปรียบเทียบกับเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไว้อย่างชัดเจน
.. คนส่วนใหญ่คิดว่า ความมั่งคั่งมาจากความคิดในสมองว่า เราได้ใช้ชีวิตอย่างอู้ฟู้หรูหรา มีกินมีใช้เหลือเฟือ โดยไม่ต้องลงมือทำอะไรเลย ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ถ้าพิจารณาคำว่า ‘attraction’ แปลว่า ดึงดูด จะเห็นว่าคำสุดท้ายนั้น คือ action นั่นคือการลงมือทำ และเมื่อเราดูคำว่า satisfaction หรือความพึงพอใจ เราทุกคนอยากได้ความพอใจ ในภาษาละติน ‘soctis’ หมายถึง พอเพียง ดังนั้น ความพอใจและการกระทำที่พอเพียงจึงจะก่อให้เกิดผล …
ถ้าเราอยากร่ำรวยภายนอก ก่อนอื่นเราต้องร่ำรวยภายในก่อน รวมไปถึงเบื้องบน เบื้องล่าง ข้างในและข้างนอก เริ่มแรกเราต้องร่ำรวยในด้านความคิด ต่อมาจึงร่ำรวยในด้านการแสดงออก มีทัศนคติด้านบวกในด้านความมั่งคั่งเกี่ยวกับที่เราเป็น และอะไรที่เป็นไปได้ เมื่อมี สิ่งนั้นแล้ว ความร่ำรวย ความมั่งมี จะเริ่มแสดงตัวออกมาให้เราเห็น
ในประเด็นนี้ตรงกับคำพูดที่ผมมักพูดกับคนรอบข้างเสมอว่า ให้คิดและพูดถึงสิ่งที่เรามีเสมอ อย่ามัวเสียเวลาไปคิดและพูดในสิ่งที่เราขาด มันต่างกันมาก! ในเมื่อมีอะไรก็ขอให้เป็นสุขกับสิ่งที่มี แล้วจะมีพลังดึงเอาสิ่งที่ดียิ่งๆ ขึ้นเข้ามาสู่ชีวิตเรา เป็นการตั้งโปรแกรมชีวิตที่มีพลังดึงดูดมหาศาล ผมได้พบเรื่องนี้กับตนเองตลอดเวลาทั้งชีวิตตั้งแต่เด็กจนโต และเป็นตัวอย่างที่คนรอบข้างได้ประจักษ์เห็นอย่างชัดเจน แต่เสียดายที่มีเพียงไม่กี่คนที่ได้นำเคล็ดลับข้อนี้ไปใช้
เอลี เดวิดสันกล่าวว่า … เราจะมั่งคั่งกว่าเดิมได้ก็โดยการรู้สึกซาบซึ้งคุณค่าในตนเองให้มากขึ้น! มีงานวิจัยมากมายในสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า คนที่รู้สึกปลาบปลื้มกับสิ่งที่ตัวเองมีสิ่งที่ตัวเองเป็น จะทำรายได้มากขึ้น และคิดสร้างสรรค์ได้ดีขึ้นด้วย ดังนั้น ขั้นตอนแรกในการทำตัวให้มั่งคั่ง จึงได้แก่การรู้สึกซาบซึ้งในคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ แล้วมองหาสิ่งดีๆ ในโลกของเราเอง เป็นบันไดขั้นแรกสู่ความมั่งคั่ง
ถึงที่สุดแล้ว ความลับเหนือโลกในด้านความมั่งคั่ง คือ เราต้องสร้างคุณค่าระดับสูง ให้คนจำนวนมาก ถ้าเราทำได้ เราจะได้รับความมั่งคั่งกลับมาหาตัวเอง ดังนั้น หากเรามีโอกาสที่จะให้บริการและมอบสิ่งที่ช่วยเหลือคนอื่นให้ปรับปรุงชีวิตของพวกเขา นำความรื่นรมย์ บริการ หรือผลิตภัณฑ์ไปสู่คนเหล่านั้น แล้วขยายบริการออกไปเรื่อยๆ ยังคนใหม่ๆ อยู่เสมอ ความมั่งคั่งย่อมไม่หนีไปไหน
แต่สำคัญที่สุด คือ ความมั่งคั่งมีได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความมั่งคั่งทางจิตวิญญาณ ด้านสุขภาพ ร่ำรวยมิตรสหาย ร่ำรวยความสุข และท้ายที่สุด คือ เงินทองตลอดจนธุรกิจ เหนือสิ่งอื่นใด หากเราเป็นผู้มีความมั่งคั่งและมั่นคงทางด้านอารมณ์ ไม่เป็นผู้อ่อนไหวไหลละลายกับคำพูดและสถานการณ์ที่เกิดจากผู้อื่นจนเสียศูนย์บ่อยๆ เราจะเป็นผู้ที่มีความมั่งคั่งในมิติอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน จงเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์และเป็นสุขอยู่เสมอครับ จำเอาไว้ … พูดในสิ่งที่มี อย่าพูดในสิ่งที่ขาด!
เป็นแง่มุมขยายความที่น่าสนใจมากๆ เลยครับคุณดนัย
เริ่มจากความพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ทุกอย่าง….ใช่ไหมค่ะ….และอยู่กับสิ่งนั้น ๆ อย่างมีความสุข
ขอแบ่งปันน่ะค่ะ ^____^
อ่านแล้วชอบมาก ^^
ยินดีมากค่ะ…